โปรแกรมเมอร์เว็บพนัน ร้องถูกนายพลตำรวจเจ้าของเว็บอุ้มทำร้าย

เช้านี้ที่หมอชิต - เพจสายไหมต้องรอด พาหนุ่มโปรแกรมเมอร์เว็บพนัน ร้องบิ๊กโจ๊ก หลังถูกนายตำรวจยศพลตำรวจตรี เจ้าของเว็บพนัน ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น อุ้มไปขู่ฆ่า หลังยอดรายได้พนันตก ขณะที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผย หากหลักฐานชัด แม้เพื่อนร่วมรุ่น ก็ละเว้นไม่ได้

เมื่อวานนี้ (6 ก.พ.) เพจสายไหมต้องรอด พาหนุ่มวิศวกร ซึ่งทำหน้าที่เป็นโปรแกรมเมอร์ ให้กับเว็บพนันชื่อดัง เข้ามาพบพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต ผู้เสียหายรายนี้ระบุว่า หลังจากที่ถูกอุ้มไปจากบ้าน และถูกขู่ทำร้ายก็เลยเข้าไปที่เพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยย้ำว่าเว็บพนันที่เขาเขียนโปร แกรมให้เป็นของนายตำรวจยศพลตำรวจตรี คนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของพลตำรวจ เอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ส่วนสาเหตุที่ถูกทำร้ายนั้น ผู้เสียหายบอกว่า เป็นเพราะเจ้าของเว็บ ไม่พอใจที่รายได้จากการพนันในเว็บไซต์ลดลง จึงมาขู่ว่าหากตุกติกหรือโกง จะฆ่าให้ตายทั้งบ้าน แต่หลังจากส่งคนมาถอดเซิฟเวอร์ไปตรวจสอบ ไม่พบความผิดปกติ ก็เลยปล่อยตัวออกมา ซึ่งแม้จะไม่โดนทำร้าย แต่นี่กลับยิ่งทำให้กลัวหนักเข้าไปอีก เพราะก่อนหน้านี้เพื่อนรุ่นพี่ ที่เคยทำเว็บพนันแห่งนี้ด้วยกัน เพิ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ อย่างมีเงื่อนงำจึงตัดสินใจมาขอ ความช่วยเหลือ

จากหลักฐานเบื้องต้นพบว่า เว็บไซต์ที่หนุ่มวิศวกรคนนี้เขียนโปรแกรมให้ มี 2 เว็บ คือ เซ็กซี่ 789 และ บูล 789 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ขณะนี้เว็บไซต์เหล่านี้ได้ปิดไปแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังรับเรื่องร้องเรียนแล้ว ชุดปฎิบัติการสืบสวนของพลตำรวจเอก สุรเชษฐ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้นำตัวนายเอ ไปชี้จุดที่เกิดเหตุในร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่ง ที่จังหวัดชลบุรี เพื่อเก็บพยานหลักฐานมาประกอบสำนวนการสอบสวนเพื่อเตรียม อนุมัติออกหมายจับผู้ที่ก่อเหตุ

โดยคดีนี้พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หากมีหลักฐานชัดเจน ก็จะดำเนินคดีทุกราย ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนก็ตาม

มีรายงานว่าหลังจากที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พูดคุยสอบถามข้อเท็จจริงกับหนุ่มผู้เสียหายได้ไม่นานก็เดินทางออกจากสโมสรตำรวจ ซึ่งมีรายงานว่า พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกไปสอบถามข้อเท็จจริงในเรื่องนี้