จับครบ 12 คน แก๊งปาระเบิดใส่กู้ภัย

เช้านี้ที่หมอชิต - เยาวชนก่อเหตุปาระเบิดใส่รถตู้กู้ภัยฯ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พยายามไล่ออกมาจากงานกาชาด เหตุการณ์ก็เลยเป็นแบบนี้

เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่รถตู้หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ จังหวัดบุรีรัมย์ ถูกกลุ่มวัยรุ่นในอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ปาระเบิดใส่จนรถได้รับความเสียหาย ระหว่างทำงานช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรนางรอง อำเภอนางรอง ขณะขับรถไปตามจุดสุ่มเสี่ยงและป้องปราม หลังเลิกงานกาชาดประจำปีของ อำเภอนางรอง เพื่อไม่ให้เกิดการทะเลาะวิวาทของวัยรุ่น ตามโครงการส่งน้องกลับบ้าน

หลังเกิดเหตุตำรวจสามารถควบคุมตัววัยรุ่น อายุ 17-19 ปีได้มาจำนวน 4 คน พร้อมอาวุธมีด และแท่งไม้กลม ส่วนเยาวชนที่เหลือจอดรถทิ้งไว้แล้วหลบหนี ซึ่งเมื่อวานนี้ (วันที่ 6 กุมภาพันธ์) เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นมาได้อีก 8 คน รวมเป็น 12 คน ซึ่งยังอยู่ในวัยเรียนกันทั้งนั้น อายุตั้งแต่ 15 -19 ปี ทั้งหมดเป็นชาว อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ 

หลังสอบถาม เยาวชนผู้ก่อเหตุทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ได้ขว้างระเบิดใส่รถกู้ภัยจริง เป็นระเบิดแบบกระแทก ทำกันเอง เพราะไม่พอใจและคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่พยายามไล่ออกมาจากงานกาชาด แต่ไม่ได้ยิงปืนใส่กู้ภัย เพราะไม่มีปืน มีเพียงแท่งเหล็กที่ตัดมาทำคล้ายเหมือนปืนปากกาเพื่อเอามาไว้ขู่คู่อริหากเกิดมีเรื่องกัน โดยผู้ปกครองของกลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุต่างนั่งรอติดตามความคืบหน้าแบบกังวลใจจดใจจ่อว่าบุตรหลานจะถูกดำเนินคดีหนักหรือไม่ หลังบุตรหลานก่อเหตุก็รู้สึกแบบนี้

นายวรบดินทร์ รุ่งโรจน์ชัยกุล หัวหน้ากู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ บอกว่า เหตุการณ์แบบนี้กู้ภัยไม่เคยเจอมาก่อน คนส่วนใหญ่เมื่อเห็นรถกู้ภัยจะดีใจ เพราะไม่คิดทำร้ายใคร ตรงกันข้ามจะเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนทุกรูปแบบ

ต่อมา พันตำรวจเอกกำพล วงษ์สงวน ผู้กำการสถานีตำรวจภูธรนางรอง ได้เป็นคนกลางเจรจาให้กับทั้งสองฝ่าย เบื้องต้นเพื่อเป็นการปลอบใจหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ จึงให้เยาวชนทั้ง 12 คน ไปกราบรถตู้ของหน่วยกู้ภัย เพราะถือว่ารถคันนี้ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนมาเป็นจำนวนมาก และให้ขอโทษหน่วยกู้ภัยต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนทางคดีตำรวจก็จะดำเนินการไปตามกฎหมาย เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาร่วมกันกับพวก พกพาอาวุธมีดไปในเมืองไม่มีเหตุอันสมควรและทำให้เกิดเสียงดัง หรือกระทำการอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจและเดือดร้อน