สางปมฆ่ายกครัว 5 ศพ ขัดแย้งครอบครัว-ค่าจ้างแรงงาน จ.ตาก

เช้านี้ที่หมอชิต - ความคืบหน้าเหตุการณ์ฆ่ายกครัว 5 ศพ ที่จังหวัดตาก ตำรวจตั้งประเด็นการสังหารไว้ 4 ประเด็น แต่มี 2 ประเด็น ที่ถูกจับตาเป็นพิเศษ คือ ความขัดแย้งในครอบครัว และ การไม่จ่ายค่าจ้างแรงงานต่างด้าว

แม่ของนางสาวเจี๊ยะ แสงสว่าง หนึ่งในผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ฆ่ายกครัว 5 ศพ นั่งดูรูปลูกสาวในโทรศัพท์มือถือ แล้วร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก หลังจากลูกสาว พร้อมสามี คือ นายเชาว์ มั่นพัฒนาการ และลูก ๆ อีก 3 คน ถูกคนร้ายสังหารอย่างโหดเหี้ยมด้วยอาวุธปืนและมีด เสียชีวิตระหว่างออกไปทำไร่ในพื้นที่ริมห้วยนาคีรี ซึ่งเป็นพื้นที่ในหุบเขา ห่างจากหมู่บ้านศรีรีรักษ์ หรือ หมู่บ้านปางสังกะสี หมู่ 11 ตำบลเชียงทอง อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก ประมาณ 10 กิโลเมตร โดยเด็ก ๆ ที่เสียชีวิตอายุน้อยที่สุดเป็นเด็กหญิงวัยเพียง 3 เดือน เด็กชายวัย 7 ขวบ และ 10 ขวบ

เมื่อวานนี้ ตำรวจทั้งชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรวังเจ้า และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบและหาพยานหลักฐาน ขณะที่ ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดตาก เร่งสอบปากคำญาติผู้อยู่ใกล้ชิดและผู้เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 20 ปาก
 
พลตำรวจตรี บัณฑิต ตุงคะเศรณี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดี

พลตำรวจตรี บัณฑิต บอกว่า คดีคืบหน้าไปมากแล้ว ตอนนี้ได้เบาะแสของคนร้ายที่ลงมือสังหาร เร่งให้ชุดสืบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด โดยตั้งประเด็นสังหารไว้ 4 ประเด็น คือ

1. ปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว ที่ฝ่ายหญิงมีสามีมาก่อนสามีคนปัจจุบัน

2. เรื่องเงินค่าจ้างแรงงานต่างด้าว ซึ่งผู้ตายเคยจ้างไว้ 7 คน กลับประเทศไปแล้ว 4 คน ปัจจุบันลดเหลือ 3 คน แต่ว่าผู้ตายไม่ได้จ่ายค่าแรง อาจทำให้แรงงานเมียนมาโกรธแค้นจึงสังหาร และมีการนำทรัพย์ที่เป็นรถอีแต๋นไปด้วย

3. ธุรกิจมืด ที่ผู้ตายที่เป็นสามีเคยโดนคดียาเสพติด และหนีหมายศาลจังหวัดเพชรบูรณ์

4. ประเด็นชิงทรัพย์ ซึ่งพบรถอีแต๋นของผู้ตายที่คนร้ายทิ้งไว้กลางทาง เนื่องจากน้ำมันหมด เชื่อว่าจากนั้นคนร้ายเดินเท้าหลบหนี

โดยคนร้ายน่าจะเป็นคนที่รู้จักกัน จึงฆ่าเด็กทุกคนเพราะจำหน้าได้ ซึ่งการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ คาดว่าจะใช้เวลาอีกไม่นานก็คงจะได้ตัว

มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า การสืบสวนพุ่งเป้าไปที่ กลุ่มแรงงานต่างด้าว 3 คน ซึ่งเป็นแรงงานในไร่มัน ซึ่งมี นายเก้า ชาวเมียนมา เป็นหัวหน้าทีม และเพื่อนอีก 2 คน หลังก่อเหตุได้ใช้รถอีแต๋นขับหลบหนีไปยังหมู่บ้านแม่ละเมาน้อย อยู่ใกล้เส้นทางแม่สอด อุ้มผาง หลักกิโลเมตรที่ 69 ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ ซึ่งเป็นเขตติดต่อระหว่างกันกับบ้านปางสังกะสี บ้านผาผึ้ง อำเภอวังเจ้า และมีรายงานด้วยว่า นายเชาว์ ผู้ตาย มักจะดุด่าแรงงานด้วยถ้อยคำรุนแรง หลังแรงงานทวงถามค่าแรงที่ทำมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ถูกบ่ายเบี่ยงปฏิเสธ และมีบางครั้งที่ นายเชาว์ มักใช้อาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม. ยิงข่มขู่ นายเก้า และพวก อีกทั้งไม่ยอมให้กลับบ้านหลังเสร็จฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต