ชูวิทย์ บี้ ไปให้ถึง นายพล จ.

เช้านี้ที่หมอชิต - ชูวิทย์ บี้ อย่าหยุดแค่ สารวัตรซัว แต่ต้องไปให้ถึง นายพล จ. ตกดึกแฉต่อ มูลนิธิเป็นต่อของเก๊

ต่อกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉ สารวัตรซัว ตั้ง 10 บริษัทฟอกเงิน ส่งให้กับ นายพล จ. ล่าสุด นายชูวิทย์ ออกมาเปิดเผยว่า มีอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกษียณราชการไปแล้วโทรศัพท์มาหา แต่ตนเองไม่ได้รับสายโทรศัพท์ดังกล่าวเอง โดยให้คนใกล้ชิดรับสายแทน ไม่ได้มีการพูดคุยรายละเอียดมากมาย แต่ก็เชื่อว่าอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ดังกล่าว มีความประสงค์ที่จะเป็นคนกลางในการให้ นายพล จ. ได้ชี้แจงพูดคุยกับตนเอง แต่ตนยืนยันเจตนารมณ์ว่าจะไม่มีการพูดคุยกับ นายพล จ. เพราะไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องพูดคุยอะไรกัน

ทั้งนี้ในประเด็นเกี่ยวเนื่องกัน บ่ายวานนี้ นายชูวิทย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หัวข้อตำรวจสีเทา มั่วซั่ว โดดเด่น โดยมีเนื้อหาใจความว่า "สังคมไทยต่อสู้ระวังกับคนร้ายทั่วไปไม่พอ ยังต้องมาคอยระแวงกับคนที่ใช้เครื่องแบบหากินอีกหรือ?" แม้ไม่ได้ใช้อาวุธปล้น แต่ใช้สมองปล้นเงินในกระเป๋าเยาวชนไทยแทนด้วยการพนันออนไลน์ ตำรวจ 200,000 กว่านาย ที่เป็นตำรวจอาชีพจะรู้สึกอย่างไร นอกจากนี้ ยังกล่าวถึง นายพล จ. ว่าสร้างภาพเข้มงวดตรวจความสะอาด แต่เรื่องสกปรกแล้วได้เงินกลับเงียบ จัดระเบียบใหม่พนันออนไลน์ จ่ายเงินใต้โต๊ะ ตั้งนโยบายแบ่งประเภทจ่ายรายเล็ก 50,000 รายกลาง 100,000 รายใหญ่ 200,000 ต่อเดือน จนพนันออนไลน์เฟื่องฟู แถม นายพล จ. คนนี้ยังกินทั้งบนอากาศ (พนันออนไลน์) แล้วยังตามไปกินในทะเล (น้ำมันเถื่อน) อีกดอก

พร้อมทั้งระบุว่า เป็นเรื่องน่าเศร้าของตำรวจที่ผู้ใหญ่มักนิยมชมชอบ ชื่นชม ตำรวจรวยสีเทา ไม่ทำงานให้ประชาชน ขโมยเวลาราชการกลับไปทำร้ายสังคม สร้างความร่ำรวยให้ตัวเอง ปลูกฝังค่านิยมผิด ๆ เพราะสามารถดูแลผู้ใหญ่ได้

จากนั้นช่วงกลางคืน นายชูวิทย์ ได้โพสต์อีกครั้งหนึ่งในหัวข้อ มูลนิธิเป็นต่อ (ของเก๊) อีกแล้ว โดยมูลนิธิเป็นต่อกรุ๊ป ดังกล่าว ตั้งโดยสารวัตรซัว ซึ่งพอกระทรวงมหาดไทยตรวจสอบดันพบอีกว่า "ไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ"
.
หากตนไม่เอามาพูดก็คงใช้มูลนิธิฟอกขาวสร้างตัวตน ทำทีเป็นคนดีบริจาคให้เด็กยากจนตามต่างจังหวัด แต่เป็นได้แค่ประเภท "มือถือสาก ปากถือศีล" เหมือนกันหมด พนมมือ เล่นไพ่ ปล้นเงินเด็กเป็นล้าน แต่บริจาคหลักร้อย โดยมูลนิธิดังกล่าวจะเอาไว้ใช้ฟอกเงิน นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงชื่อบุคคลอีก 3-4 ชื่อ ที่เป็นเครือข่ายติดตามสารวัตรซัว เช่น รูบี้ กอส. รุ่น 42 (ศิษย์เก่ารุ่นน้องโรงเรียนเดียวกัน) กอล์ฟ เต็น ตั้ว แก๊งตำรวจ กอส. รุ่นพนันออนไลน์ พร้อมระบุว่า "ตอนนี้ผมแฉแล้ว กรุณาหาช่องทางจับสักทีเถอะครับ เพราะอย่างไรสารวัตรซัวก็คงไม่เดือดร้อน มีบ้านมีเงินฝากอยู่ลอนดอนหลายร้อยล้านปอนด์ กินหลายชาติก็ไม่หมด แต่ล้วนเอามาจากคนไทยตอนใส่เครื่องแบบตำรวจทั้งนั้น"

สำหรับการแฉลากไส้ นายพล จ. ของ นายชูวิทย์ ครั้งนี้ มุ่งเป้าไปที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. โดยตรง

หน่วยงาน บช.สอท. เป็นหน่วยงานใหม่ที่เพิ่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2563 โดย พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้น ได้ตั้ง 11 นายตำรวจ เพื่อรักษาการกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ โดยมี พลตำรวจโทกรไชย คล้ายคลึง จเรตำรวจ(สบ.8) เป็นรักษาราชการแทน ผบช.สอท. และก็ได้ดำรงตำแหน่งเป็น ผบช.คนแรก อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2563 

ต่อมาในปี 2565พลตำรวจโท กรไชย ขยับขึ้นไปเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจ ตำแหน่งนี้จึงตกมาถึงมือของ พลตำรวจตรีวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา มาถึงปัจจุบัน แน่นอนว่าเมื่อพูดถึง นายพล จ. แม้อดีต ผบ.ตร.จักรทิพย์ จะมี จ.ชัดเจน แต่ยืนยันได้ว่าไม่ใช่ ส่วนที่เหลือเป็นใครท่านผู้ชมลองไปคิดต่อกันดู