พี่ชายร้อง น้องสาวแฟนต่างชาติตายมีเงื่อนงำที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต

เช้านี้ที่หมอชิต - หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งมีแฟนหนุ่มชาวต่างชาติ เสียชีวิตอยู่ภายในร้านทำเล็บ ที่ตำบลป่าตอง อำเภอกระทู้ จังหวัดภูเก็ต จู่ ๆ มีคนแจ้งญาติว่าเธอผูกคอเสียชีวิต แต่พี่ชายไล่ดูหลักฐานพบความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง และยังพบหลักฐานแช็ตไลน์ที่น้องสาวบอกว่าสงสัยเกี่ยวกับธุรกิจสีเทาของแฟนหนุ่ม จึงสงสัยว่าน้องสาวอาจถูกฆาตกรรมอำพรางหรือไม่

นางสาวันวิสา ริ้วกลาง อายุ 31 ปี เสียชีวิตภายในร้านทำเล็บแห่งหนึ่ง ในตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยสาเหตุที่ผู้พบศพระบุคือใช้ผ้าม่านรัดคอตนเองจนขาดอากาศหายใจ เสียชีวิต

แต่ นายเกรียงศักดิ์ ริ้วกลาง พี่ชายของนางสาวันวิสา นำหลักฐานแช็ตการสนทนาระหว่างน้องสาวกับตนเองมาเปิดเผย เนื่องจากยังติดใจการเสียชีวิตของน้องสาว เพราะไม่เชื่อว่าน้องจะฆ่าตัวตาย

นายเกรียงศักดิ์ เปิดเผยว่า น้องสาวเป็นแฟนกับ นายแรนดี้ สัญชาติแคนาดา อายุ 51 ปี โดยรู้จักกับ นายแลนดี้ มาประมาณ 4-5 เดือน หลังจากที่ไปท่องเที่ยวในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ซึ่ง นายแลนดี้ เป็นเจ้าของ ก่อนจะคบหากันและตกลงหมั้น น้องสาวเคยเล่าให้ฟังว่าระหว่างที่น้องสาวทำงานอยู่ในสถานบันเทิง รู้สึกไม่สบายใจเนื่องจากรู้เห็นการทำธุรกิจสีเทา จึงขอให้ นายแลนดี้ เปิดร้านทำเล็บให้

ต่อมาเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา น้องสาวโทรศัพท์มาหาเวลาประมาณ 20.00 น. บอกว่าถูก นายแลนดี้ ทำร้ายร่างกาย และถูกขังไว้ในห้อง กระทั่งเวลา 22.00 น. น้องหลบหนีออกมาจากห้องพักได้ ตนจึงแนะนำให้ไปแจ้งความ แต่พนักงานสอบสวนยังไม่รับแจ้งความ ทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้ จากนั้นน้องสาวยังเล่าให้ฟังอีกว่า วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ถูก นายแลนดี้ บังคับให้เสพวัตถุชนิดหนึ่งแล้วหลับไป ซึ่งระหว่างนั้นยังพบว่า นายแลนดี้ ถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ด้วย แต่ไม่ทราบว่าถูกทำอะไรบ้าง นายแลนดี้ ยังได้แช็ตมาในไลน์ข่มขู่ว่าจะนำคลิปวิดีโอไปเผยแพร่ในต่างประเทศอีกด้วย

จากนั้นเพื่อนของน้องสาวโทรมาบอกว่า น้องสาวเสียชีวิตตอน 14.00 น. ที่ห้องพัก โดยใช้ผ้าม่านมาผูกคอ แต่สภาพศพที่ถ่ายจากที่เกิดเหตุพบว่าน้องสาวถูกนำตัวลงมาที่พื้นแล้ว โดยคนที่อยู่ในเหตุการณ์อ้างว่านำตัวลงมาปั๊มหัวใจ ซึ่งตำรวจก็มาถึงที่เกิดเหตุช้า ก่อนจะนำส่งไปที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อชันสูตรการเสียชีวิต

นายเกรียงศักดิ์ ไม่เชื่อว่าน้องสาวจะผูกคอเสียชีวิตเอง เนื่องจากน้องสาวยังมีภาระการส่งเสียเลี้ยงดูลูก 2 คน และพ่อที่ป่วย

จากนี้ต้องรอผลพิสูจน์หลักฐานจากโรงพยาบาลตำรวจเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง แต่พี่ชายผู้เสียชีวิตระบุว่า ที่ผ่านมาทางนายแคนดี้ มีการเสนอให้เงิน 5 แสนบาท เพื่อให้ยุติการติดตามคดี แต่ตนไม่ขอรับ เพราะอยากเรียกร้องความเป็นธรรมให้น้องสาว และเพื่อให้ความจริงปรากฎ จึงมาร้องเรียนกับเพจสายไหมต้องรอด อีกทั้งทราบว่า วีซ่าเข้าประเทศไทยของนายแรนดี้ จะหมดภายในวันที่ 15 นี้ จึงอยากให้ตำรวจเร่งรัดการดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะนำผู้เสียหายไปร้องเรียนกับ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงยุติธรรม ในวันนี้ เวลา 09.00 น. ที่สโมสรตำรวจ เพื่อเร่งรัดการดำเนินคดี และคลายข้อสงสัยของการเสียชีวิต

และเมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบเพิ่มเติม ในเฟซบุ๊กของ นางสาววันวิสา เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เธอแชร์คลิปงานปาร์ตี แล้วมีภาพ นายแรนดี้ มาคอมเมนต์แบบอาลัยอาวรณ์ ใต้โพสต์เมื่อ 3 วันที่ผ่านมาว่า "รูปสุดท้ายที่เราอยู่ด้วยกัน ผมรักคุณตอนนี้และตลอดไป"