ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

มนต์รักปาท่องโก๋ ที่แท้อดีตเจ้าอาวาสวัดในลพบุรี

เช้านี้ที่หมอชิต - วงการผ้าเหลืองฉาวโฉ่ ต้อนรับวันวาเลนไทน์อีกครั้ง เมื่อเพจดังโพสต์ภาพพระ 2 รูป กำลังกอดรัดกันอบอุ่น ขณะที่ตรวจสอบแล้วเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี เคยสร้างกุฏิเหมือนรีสอร์ท

เพจ "อีซ้อขยี้ข่าว2" โพสต์ภาพพระสงฆ์ 2 รูป อ้างว่า เป็นพระวัดดังในจังหวัดลพบุรี กำลังนอนกอดกัน พร้อมระบุข้อความว่า "มนต์รักปาท่องโก๋ อ้อมกอดที่อบอุ่นของพระสงฆ์ 2 รูป ภายใต้วงแขนที่ความหวานขัดใจชาวพุทธก่อนถึงวันวาเลนไทน์ ส่วนด้านพฤติกรรม เด็กอนุบาลก็รู้ว่าไม่ควรทำ"

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ ที่วัดเขาวงพระจันทร์ ตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ซึ่ง พระเทพเสนาบดี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เดินทางมาสอบสวน และฟังคำชี้แจงถึงเรื่องราวดังกล่าวด้วย โดย พระมหาธวัชชัย สิริธโช เจ้าอาวาสวัดเขาวงพระจันทร์ บอกว่า ภาพพระรูปดังกล่าว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานที่ของวัด และพระรูปดังกล่าว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัด เพียงแต่เคยมาช่วยงานประเพณีขึ้นเขาวงพระจันทร์ เมื่อวันที่ 22 มกราคม ถึง 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยใช้ชื่อว่า "พระธนสรัญวิลัย" ระบุอยู่ในวัดแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ซึ่ง พระธนสรัญวิลัย เคยมาช่วยงานประเพณีวัดในปีก่อน ร่วมกับพระรูปอื่นกว่าร้อยรูป วัดจัดสรรที่จำวัด (ที่นอน) เป็นเต๊นท์รวมกับพระรูปอื่น ๆ ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นงานประจำปี ก็แยกย้ายกันกลับ

ทั้งนี้ พระเทพเสนาบดี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ได้สอบถามไปยังเจ้าอาวาสวัดที่กรุงเทพฯ ที่พระธนสรัญวิลัย เคยสังกัดอยู่ โดยปลายสายเป็นเจ้าอาวาส บอกว่า พระธนสรัญวิลัย เคยมาบวชที่นี่แล้วสึกไปนานแล้ว ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใด และไม่ทราบว่าไปทำเรื่องอื้อฉาวในพื้นใดเช่นกัน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดสระพรานจันทร์ ตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ชาวบ้านที่นี่ บอกว่า พระรูปดังกล่าวชื่อว่า พระครูสังฆรักษ์ธนสรัญ หรือ พระอาจารย์ณัต เป็นเลขานุการเจ้าคณะตำบลห้วยโป่งเขต 1 และยังเป็นเจ้าอาวาสวัดสระพรานจันทร์ ตั้งแต่ปี 2564 เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ช่วงแรกมีการบูรณปฎิสังขรณ์วัด และปฎิบัติกิจของสงฆ์ แต่พออยู่ได้ระยะหนึ่ง ได้สร้างกุฎิสีฟ้าลักษณะคล้ายรีสอร์ท ในบริเวณวัด ใช้งบประมาณ 400,000 บาทเศษ ติดแอร์ 2 ตัว มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน หลังจากนั้น มีพระอีกรูปอายุประมาณ 50 ปีเศษ ใช้รถหรูราคาแพงมาอยู่ด้วยประมาณ 2 พรรษา ก็ออกจากวัดไป โดยเจ้าอาวาสเรียกว่าป๊า

ช่วงนั้น เจ้าอาวาสไม่เคยปฏิบัติกิจของสงฆ์ ขลุกอยู่แต่ในห้อง หลังจากพระอายุมากออกจากวัดไป มีสามเณรชื่อบาส มาอยู่ด้วย ชาวบ้านเริ่มเห็นพฤติกรรมของเจ้าอาวาสกับเณรบาส ที่มักแสดงบทรักและความหึงหวงต่อกัน เคยมีครั้งหนึ่งที่พระอายุมาก กลับมาที่วัดอีกครั้ง ขับรถหรูยี่ห้อโตโยต้า Alphard พร้อมรถเบนซ์ที่มีชายฉกรรจ์ขับมาอีกคัน ไล่ชนสามเณรบาส ทำให้เจ้าอาวาสและเณรบาส ต้องหนีไปสึกที่วัดแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านหมี่

ปัจจุบันชาวบ้านเปลี่ยนสีของกุฎิจากสีฟ้ามาเป็นสีเหลือง ซึ่งจากการตรวจสอบภายในกุฎิ ต้องตกตะลึงเมื่อพบชุดเสื้อผ้า ชุดชั้นในหวานแหวว รองเท้า อวัยวะสิ่งเทียม อีกทั้งยังพบภาพกอดรัดฟัดเหวี่ยง กับพระด้วยกัน รวมถึงภาพที่สลัดผ้าเหลืองจากวัด ไปเที่ยวชายทะเลกับคู่ขา ต่อมา มีทราบว่า อดีตเจ้าอาวาสแต่งกายเป็นพระ มาช่วยงานวัดเขาวงพระจันทร์

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark