ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ครูนาฏศิลป์ทำโทษแรง กระบองหวดน่องนักเรียน ม. 2 จ.สงขลา

เช้านี้ที่หมอชิต - เรื่องร้อนในวงการการศึกษา หลังแม่นำนักเรียนชั้น ม.2 เข้าแจ้งความว่าลูกสาวถูกครูนาฏศิลป์ลงโทษหนักเกินเหตุ โดนตีจนขาเขียวช้ำเพียงเพราะฝึกท่ารำผิด แถมโดนจับล็อกแขนไขว้หลังให้รุ่นพี่ชั้น ม.5 ตบหน้าหลายครั้งจนหูอื้อ แม่ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) มีเหตุการณ์ที่ครูสอนวิชานาฏศิลป์ ใช้ไม้กระบองกระบี่ตีนักเรียนหญิงชั้น ม.2 เข้าที่น่องและจับล็อกมือไพล่หลัง ให้นักเรียนชายรุ่นพี่ ม.5 ตบที่หน้าหลายครั้งเพราะฝึกท่ารำไม่ได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับ เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครสงขลา

ซึ่งตอนนี้ เด็กหญิงเอ ต้องหยุดเรียนพักอยู่ที่บ้านกับแม่อายุ 36 ปี ซึ่งพาลูกสาวเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาแล้ว เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ร่างกายของ เด็กหญิงเอ ก็ยังมีร่องรอยถูกตีที่น่องเขียวช้ำอย่างชัดเจน แม้จะผ่านมาหลายวันแล้วก็ตาม

เด็กหญิงเอ เล่าให้ฟังว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 19.30 น. ภายในหอประชุมโรงเรียน ขณะที่กำลังฝึกซ้อมรำกันเพื่อเตรียมถ่ายคลิปส่งเข้าประกวด แต่ตัวเองรำบางท่าไม่ได้ จึงถูกตีบนเวที จึงทนไม่ไหวต้องหยุดและร้องไห้ และครูให้รุ่นพี่มาเคลียร์ว่าตนจะเอาอย่างไร จึงตอบไปว่า "จะไม่แข่งแล้ว" ครูจึงถามรุ่นพี่ว่าเมื่อกี้พูดว่าอะไร รุ่นพี่จึงบอกว่า "มันไม่แข่งแล้ว" ครูจึงให้ลงจากเวทีและถอดชุดข้างล่าง ก่อนเอาไม้กระบองกระบี่ตีที่ขาหลายครั้ง แถมยังบีบคอ ต่อด้วยจับมือไพล่หลัง ให้เพื่อนรุ่นพี่นักเรียนชั้น ม.5 ซึ่งเป็นผู้ชาย ตบหน้าหลายครั้งจนหูอื้อ

แม่ของน้องเอ บอกว่า หลังจากที่รู้ว่าลูกสาวถูกครูทำโทษรุนแรงและมีรอยช้ำที่น่อง ก็พาไปตรวจร่างกายและรักษาที่โรงพยาบาลสงขลา และเอาใบรับรองแพทย์ไปแจ้งความดำเนินคดีกับครูคนนี้ให้ถึงที่สุด ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ครูคนนั้นถูกไล่ออกจากโรงเรียน เพราะตนในฐานะแม่ก็ไม่เคยทำโทษลูกรุนแรงแบบนี้

แม่ของเด็กหญิงเอ บอกอีกว่า หลังเกิดเหตุลูกสาวต้องนอนผวา 2 คืนติดต่อกัน คืนแรกร้องเพ้อพูดว่าไม่เอาแล้ว คืนที่ 2 ก็ร้องไห้ และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ครูก็มาเยี่ยมที่บ้าน และบอกว่าสาเหตุที่ทำโทษเพราะน้องชักสีหน้าใส่ครู ซึ่งล่าสุดทาง สำนักการศึกษาเอกชน จังหวัดสงขลา ติดต่อมาพูดคุยแล้ว

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนแห่งนี้ เพื่อติดต่อสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทางคุณครูภายในโรงเรียนแจ้งว่าทาง ครูหญิง ครูสอนนาฏศิลป์ ได้พานักเรียนเดินทางไปแข่งขันรำที่จังหวัดบุรีรัมย์ และจะเดินทางกลับมาในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อนักเรียนชั้น ม.5 ซึ่งเป็นนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ ที่ถูกกล่าวหาว่าจับ น้องเอ นักเรียนชั้น ม. 2 ล็อกแขนไขว้หลังและลงมือตบ 

ซึ่งรุ่นพี่ชั้น ม.5 เล่าเหตุการณ์ในมุมของตัวเองว่า วันนั้นทุกคนแต่งชุดโนรา เตรียมตัวรำเพื่ออัดคลิปแข่งขันกัน อัดคลิปรอบแรกทุกคนรำผิดกันหมด ครูสอนนาฎศิลป์จึงถามนักเรียนว่า "ถ้ารำผิดกันอีกครั้งจะให้ครูทำอย่างไร" นักเรียนก็พร้อมใจกันตอบว่า "ให้ครูลงโทษด้วยการตีฝ่าเท้า" เพราะคิดว่าการตีฝ่าเท้าจะไม่ค่อยเจ็บ นี่จึงเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างครูกับลูกศิษย์ ก็คือถ้ารำผิดท่าอีกจะให้ครูตีฝ่าเท้า ผิดท่าละ 5 ที 

นักเรียนชั้น ม. 5 ยืนยันว่า น้องเอ นักเรียนชั้น ม. 2 ก็ยอมรับในบทลงโทษนี้ด้วยเช่นกัน เมื่อเริ่มรำใหม่กันอีกครั้งก็ยังมีบางคนที่รำผิดอยู่ ครูนาฏศิลป์ก็ตีฝ่าเท้า แต่ตีแค่ 1 ครั้ง ไม่ถึง 5 ตามข้อตกลง หลังจากนั้นทุกคน ต่างก็รำกันได้หมด ยกเว้น น้องเอ นักเรียนชั้น ม.2 ที่ยังท่ารำผิดอยู่ ครูจึงถามว่า "จะให้ครูทำอย่างไร" น้องเอ นักเรียนชั้น ม. 2 จึงตอบครูว่า "ให้ครูตี 5 ครั้งได้เลย" แล้วก็เดินลงจากเวที ยืนต่อหน้าครูแล้วยกฝ่าเท้าขึ้นให้ครูลงโทษ นี่เป็นเพียงคำบอกเล่าเหตุการณ์ของนักเรียนชั้น ม.5 ที่อยู่ในเหตุการณ์ ส่วนสาเหตุที่สงสัยว่าตีที่ฝ่าเท้าแต่ทำไมน่องของนักเรียนชั้น ม.2 ถึงฟกช้ำ รุ่นพี่ ม.5 ก็ตอบในประเด็นนี้

ส่วนการจับ น้องเอ นักเรียนชั้น ม. 2 เอามือไพล่หลังนั้น รุ่นพี่ชั้น ม.5 บอกว่า เป็นการช่วยแกะชุดมโนรา ไม่ได้จับมือไพล่หลังแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่าครูสอนนาฏศิลป์ตีจริง แต่เรื่องการล็อกมือไม่จริง

รุ่นพี่นักเรียนชั้น ม. 5 รายนี้ยืนยันว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือข้อตกลงบทลงโทษร่วมกันระหว่างครูสอนนาฏศิลป์และลูกศิษย์  

ทีมข่าวเช้านี้ที่หมอชิต ได้โทรสอบถามความคืบหน้ากับทางสำนักงานการศึกษาเอกชน จังหวัดสงขลา ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งทางสำนักงานฯ ยังไม่พร้อมตอบรายละเอียดในเรื่องนี้ แต่บอกเพียงว่าได้ลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนที่เกิดเหตุดำเนินการเบื้องต้นแล้ว เพื่อเก็บข้อมูล ได้สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้จัดการโรงเรียน และนักเรียนชายชั้น ม.5 ซึ่งในวันที่ลงพื้นที่เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) ผู้อำนวยการโรงเรียน และครูสอนนาฏศิลป์ ไม่อยู่ที่โรงเรียน

ส่วนผู้ปกครองของเด็กหญิงเอ ได้ตอบคำถามทางโทรศัพท์ว่า "จะขอดำเนินคดีถึงที่สุด ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย"

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark