ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

เจาะข้อสงสัย แม่เด็ก ม.3 กระโดดตึก ตั้งใจหรือโดนแกล้ง?

เช้านี้ที่หมอชิต - จากคำบอกเล่า เพื่อน ๆ ในโรงเรียน อาคารเรียนชั้น 4 ไม่มีคนอยู่ น้องกานต์เดินขึ้นไปชั้น 4 คนเดียว ในขณะที่ทั้งโรงเรียนกำลังสอบอยู่ในห้องแล้ว น้องกานต์ ก็กระโดดลงมาในลักษณะเอาหน้าลง ส่วนเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ก่อนน้องจะกระโดดจากอาคารเรียนชั้น 4 มาจากสาเหตุอะไรนั้น ยังเป็นเรื่องที่อยู่ในความสงสัยของแม่น้องกานต์ "เพราะไม่อยากให้เรื่องความรุนแรง การบุลลีในโรงเรียนเกิดขึ้นกับลูกใครอีก"

ทางแม่น้องกานต์ ได้รับคำตอบจากทางโรงเรียนว่า ได้มีการไปสอบสวนเด็กนักเรียนทั้งห้องมาหมดแล้วว่าไม่มีใครแกล้งกานต์เลย ทุกคนโอเคหมด ไม่มีการบุลลี แต่สวนทางกับสิ่งที่แม่ได้ยินจากน้องกานต์ ที่บอกกับแม่มาตลอดว่า เขาโดนแกล้งตั้งแต่ ม.1 จนกระทั่งถึง ม.3 ทั้งโดนต่อย โดนชก โดนเอาน้ำราดหัว มีทั้งเพื่อนในห้อง และเพื่อนต่างห้อง สิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องกานต์บางเรื่องไม่เคยถึงครู แม่น้องกานต์ก็เลยสงสัยว่า พอครูไปสอบถามกับนักเรียนเองก็เลยได้ข้อมูลมาอีกแบบ คำตอบที่ครูในโรงเรียนได้มา ก็คือ "ไม่มีใครทำร้ายน้องกานต์เลย"

แม่น้องกานต์ยืนยันว่า ทั้ง ๆ ที่น้องกานต์ กลับมาถึงบ้านก็เครียด แต่การสืบสวนของทางโรงเรียนได้มาเพียงคำตอบเดียวคือ "ไม่มีใครทำร้ายน้องกานต์เลย" ได้อย่างไร

สาเหตุที่แม่น้องกานต์ไม่เชื่อว่าลูกชายจะตัดสินใจกระโดดอาคารเรียนเอง แม่ตั้งคำถามว่าจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อ น้องกานต์ มีความตั้งใจจะสอบเข้าเรียนต่อในระดับ ปวช. จู่ ๆ จะมาตัดสินใจกระโดดฆ่าตัวตายได้อย่างไร

เพราะก่อนหน้านี้ อาการน้องกานต์ปกติมาก ๆ มีบางทีน้องกลับถึงบ้านเก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียว นอนเล่นดูเกมในยูทูป นอนดูคลิปตลก ๆ แล้วก็หัวเราะเสียงดังออกมาตลอดเลย แต่อาการของน้องกานต์ ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน ก็คือ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แม่ได้พาน้องกานต์ ไปหาหมอกล้ามเนื้อ น้องก็มีอาการปกติ กินข้าว กินยาได้ตามที่หมอบอก

ต้องบอกว่า น้องกานต์ก็เป็นนักกีฬาเทควันโดด้วย แต่ไม่ถึงขั้นเป็นตัวแทนของโรงเรียน น้องฝึกซ้อมอยู่ที่ยิม แต่ น้องกานต์ ก็มีความพยายามเข้าโควตานักกีฬาเทควันโดให้ได้ เพราะการเข้าโควตานักกีฬาเทควันโด ต้องย้ายไปอีกโรงเรียน

แต่พอน้องมีปัญหาเรื่องเจ็บกล้ามเนื้อ และ น้องกานต์ ก็ยอมรับกับแม่ด้วยความเข้าใจในสภาพร่างตัวเองว่า "เปลี่ยนไปเรียนทางอื่นก็ได้" ตัวเองก็ถามย้ำกับลูกชายอีกรอบว่า "จะเรียนอยู่ที่โรงเรียนเดิมไหม" น้องกานต์ ก็ยืนยันว่า "ไม่อยากเรียนที่เดิมแล้ว ผมพยายามจะหนีจากเพื่อนที่คอยรังแกผม ผมยอมไปเรียนพาณิชย์ก็ได้ ผมจะไปเรียนการโรงแรม"

ส่วนตอนเช้า วันเกิดเหตุ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา น้องกานต์ ตื่นมาด้วยความสดใส ตื่นตั้งแต่ 05.00 น. อ่านหนังสือสอบ เรื่องเรียนแม่ไม่เคยกดดันลูกชาย แต่ น้องกานต์ เขามีความตั้งใจของเขาเอง ก่อนเกิดเหตุน้องยังอารมณ์ดีอยู่เลย ก็ยิ่งทำให้แม่สงสัยว่า ก่อนที่ น้องกานต์ จะกระโดดอาคารเรียน เกิดอะไรขึ้นกับน้องกันแน่ แม่อยากได้ข้อมูลที่แท้จริงกับทางโรงเรียน และเพื่อนของน้อง นี้จึงเป็นส่วนหนึ่งที่แม่น้องกานต์ ออกมาโพสต์ และออกสื่อ เพื่อให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้ข้อมูลที่แท้จริงกับแม่ แม่บอกไม่ต้องการเอาผิดใคร แค่ต้องการการยอมรับผิด

แม่น้องกานต์เล่าว่า ในช่วงโควิด-19 ที่เคยมีข่าวว่าเด็กเป็นโรคซึมเศร้า ในช่วงนั้นแม่ก็กังวลจึงลองให้ลูกชายทำแบบทดสอบ กลายเป็นว่า น้องกานต์ เข้าเกณฑ์เป็นโรคซึมเศร้าอ่อน ๆ แม่จึงพา น้องกานต์ ไปหาหมอ ซึ่งทางคุณหมอก็บอกว่า ปัญหา น้องกานต์ มีจริง แต่ยังไม่ได้เป็นในระดับที่รุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกายตัวเอง คุณหมอบอกว่า น้องกานต์ เล่าให้หมอฟังถึงกรณีมีเพื่อนที่โรงเรียนทำร้ายร่างกาย บางครั้งโดนเพื่อนแกล้งก็ต้องกระโดดหนีออกทางหน้าต่างไปเลย แม่ได้ฟังก็ตกใจ ก็รีบบอกกับลูกว่า คราวหลังอย่ากระโดดนะลูก ให้รีบไปบอกครูแทน ว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

น้องกานต์เริ่มไปพบแพทย์ รักษาอาการซึมเศร้าตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 ปัจจุบันคุณหมอก็แจ้งอาการกับแม่ว่า "น้องการต์อาการคงทีแล้ว จะให้หยุดยาก็ได้" แต่ยังไม่อยากให้ลูกหยุด จะได้ปรับอารมณ์ จนกว่าจะจบชั้น ม.3

ส่วนอาการของ น้องกานต์ ตอนนี้ คุณแม่บอกว่า อาการทรงตัวยังอยู่ในห้อง ICU จะมีการผ่าตัดตรงกรามกับคางในวันนี้ (16 ก.พ.)

แม่น้องกานต์ ย้ำกับทีมข่าวเช้านี้ที่หมอชิต ตลอดการสนทนาว่า "แม่ไม่อยากให้เรื่องนี้เงียบ" แม่อยากให้หาคนที่แกล้งน้องกานต์ ออกมาให้ได้จะได้รับรู้ด้วยว่าสิ่งที่เขาทำกับน้องกานต์ มาตลอด ผลที่ตามมามันเป็นแบบนี้ เขาจะสำนึกบ้างไหมไม่รู้ แต่แม่กลัวว่าเขาจะไปทำกับคนอื่นอีกไหม

ทางทีมข่าวฯ ก็ถามแม่น้องกานต์ว่า "อะไรที่ทำให้น้องกานต์เจ็บปวดที่สุด จาการโดนเพื่อนแกล้งในโรงเรียน" คุณแม่ก็ตอบว่า คือการใช้กำลัง แต่เขาไม่ได้มาบอกทุกครั้ง จะมาบอกตอนที่เรื่องผ่านไปแล้ว และจะบอกว่าตัวเองไม่เป็นไร เดี๋ยวจะเลี่ยงไม่เจอเพื่อนคนนี้ บางเรื่องที่พ่อแม่รู้ก็เข้าไปเคลียร์ที่โรงเรียนให้ อย่างเรื่องโดนเพื่อนตบหน้ารุนแรง ก็ได้รับคำขอโทษจากเพื่อน แต่หลายเรื่องที่บอบช้ำอยู่ในใจลูก บางเรื่องแม่ก็ไม่รู้ บอกเสมอว่า ไม่อยากเรียนโรงเรียนเดิม แม่ยืนยันว่า น้องกานต์ไม่ใช่เด็กที่จะทำร้ายตัวเองแน่นอน เพราะน้องเป็นเด็กที่กลัวเจ็บ

แม่น้องกานต์ ยังยืนว่า ที่แม่ออกมาพูดแม่ไม่อยากให้เกิดเหตุกับใครอีก ถ้าโรงเรียนยอมรับ ถ้าโรงเรียนหาสาเหตุเจอ จะได้ป้องกันไม่ให้เด็กนักเรียนคนนั้นไปทำกับคนอื่นอีก โรงเรียนควรจะมีมาตรการป้องกัน ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องเหล่านี้หายไป แม่น้องกานต์ไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับลูกใครอีก

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark