ตม.ค้นบ้าน-สมาคม นายหยู ซินฉี หาหลักฐานเพิ่ม

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าค้นบ้านพักและที่ตั้งสมาคมของนาย "หยู ซินฉี" เพื่อหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการแอบอ้าง และจัดตั้งมูลนิธิโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันดำเนินคดีแล้ว 3 ข้อหา

ตม.ค้นบ้าน-สมาคม นายหยู ซินฉี หาหลักฐานเพิ่ม
ตำรวจ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อม ตำรวจ สน.คันนายาว นำตัว นาย "หยู ซินฉี" ประธานสมาคมมณฑลส่านซีแห่งประเทศไทย ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกลุ่มนายทุนสีเทา ไปตรวจค้นหาพยานหลักฐานจากบ้านพักหรู และรถยนต์ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านวัชรพล เบื้องต้นพบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งสมาคม, ภาพถ่ายคู่กับบุคคลมีชื่อเสียง จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ขณะที่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า คดีนี้ตำรวจได้ดำเนินการแจ้ง 3 ข้อหากับ นายหยู ซินฉี ไปแล้ว คือความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, พ.ร.บ.เรี่ยไร และการตั้งสมาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังสืบสวนพบว่าการก่อตั้งสมาคมเป็นไปอย่างไม่ถูกต้อง มีการใช้ภาพบุคคลสำคัญ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้คนร่วมลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ พร้อมยืนยันว่า หากมีการดำเนินคดีตามความผิดในไทยเสร็จสิ้นแล้ว จะผลักดันออกนอกประเทศ พร้อมขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ห้ามกลับเข้ามาในไทยถาวร

ชูวิทย์ แนะรัฐบาลยกเครื่อง ตม. สกัดชาวต่างชาติสีเทาเข้าไทยเพิ่มขึ้น
ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ใจความสำคัญเผยถึงการขั้นตอนการได้มาซึ่งวีซ่าในการอยู่อาศัยในประเทศไทยของชาวต่างชาติ ซึ่งรวมถึง นายหยู ซินฉี ที่มีการเข้ามาด้วยวีซานักท่องเที่ยว ก่อนจะแปลงเป็นวีซาเกษียณ ที่จังหวัดชลบุรี

โดยขั้นตอนเหล่านี้จะมี "เอเยนต์" และ "ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง" รู้เห็นกัน คิดค่าดำเนินการหัวละ 200,000 บาท โดยที่ผู้ขอวีซาไม่ต้องไปแสดงตัวให้เห็น ส่วนที่กฎหมายระบุต้องมีเงินขั้นต่ำที่ต้องมีในบัญชี 800,000 บาท เอเยนต์จะหาเงินฝากเข้าบัญชี ใช้เพียงแสดงให้เห็นว่ามีเงินตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด แล้วค่อยถอนจากบัญชีภายหลัง เป็นเหตุให้มีคนจีนเข้ามาในไทยจำนวนมาก สร้างความเสียหายแก่ประเทศ