รุ่นพี่ ม.5 สั่งทำโทษรุ่นน้องให้ลงไปแช่ในบ่ออุจจาระ

ข่าวสังคม 19 กุมภาพันธ์ 2566 - สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - เกิดเหตุรุ่นพี่ ม.5 โรงเรียนประจำชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี สั่งทำโทษรุ่นน้อง ม.1 ด้วยการให้ลงไปแช่ในบ่ออุจจาระ นำน้ำอุจจาระมาราดหัว ก่อนให้ฝึกแบบทหาร อ้างเป็นธรรมเนียมและสร้างวินัยให้กับรุ่นน้อง

หญิงอายุ 38 ปี พาเด็กชายเอ อายุ 13 ปี และเด็กชายบี อายุ 14 ปี ลูกชาย เข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากลูกชายทั้ง 2 คน ถูกรุ่นพี่โรงเรียนประจำชื่อดังในจังหวัดเพชรบุรี สั่งลงโทษอย่างทารุณ ด้วยหารให้ลงแช่ในบ่อเกรอะ จนเกิดเป็นแผลติดเชื้อ รักษาไม่หาย ซึ่งทางโรงเรียนและครูหอพักปัดความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ครั้งนี้

เด็กชายผู้เสียหายทั้ง 2 คน เล่าว่า เหตุการณ์เกิดช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยมูลเหตุเกิดจากคนในหอตื่นสาย ประกอบกับเรื่องการทำความสะอาด และไม่เก็บอุปกรณ์ให้เรียบร้อย ทำให้ช่วงหลังเลิกเรียน รุ่นพี่ ม.5 ของหอพัก จึงสั่งลงโทษรวมนักเรียนชั้น ม.1-ม.4 ซึ่งตนทั้งสองคนก็โดนไปด้วย โดยการให้ทุกคนกระโดดลงไปแช่ในบ่อเกรอะนานหลายนาที ก่อนจะให้ขึ้นจากบ่อโดยไม่ล้างตัว จากนั้นได้ลงโทษตามวิธีการทหาร เช่น ดันพื้น ลุกหมอบ กลิ้งไปกลิ้งมาจนเป็นแผลทั่วร่างกาย ทั้งยังนำน้ำอุจจาระมาเทราดพวกตน จนเกิดเป็นแผลติดเชื้อ ผ่านไปหนึ่งเดือนก็ยังรักษาไม่หาย และมีท่าทีว่าจะอักเสบมากขึ้น

ด้านแม่ของผู้เสียหายได้เดินทางไปสอบถามข้อเท็จจริง กับคุณครูประจำหอ ปรากฏว่าครูประจำหอบ่ายเบี่ยงที่จะรับผิดชอบ โดยอ้างว่าเด็กสมัครใจโดดลงไปเองและเป็นไปตามธรรมเนียมรุ่นพี่ปกครองรุ่นน้อง ที่ต้องบ่มเพาะอบรมให้รุ่นน้องมีระเบียบวินัย และยังท้าทายให้ไปแจ้งความดำเนินคดี อีกทั้งได้อัดคลิปวิดีโอทำทีให้นักเรียนรุ่นพี่พูดกล่าวหาว่าลูกตนสมัครใจโดดลงไป ทั้ง ๆ ที่ข้อเท็จจริง น้องผู้เสียหายถูกสั่งให้โดดลงไป และต้องทำตามด้วยความกลัว ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งโรงเรียนและรุ่นพี่คนที่ลงโทษ และตอนนี้ได้ให้ลูกลาออกจากโรงเรียนดังกล่าวแล้ว

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องของกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการออกกฎควบคุมมิให้เกิดการทำกิจกรรมในลักษณะของการทารุณกรรมในสถานศึกษา ทั้งที่การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทำร้ายร่างกายและละเมิดสิทธิ โดยหลังจากนี้ตนจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ชะอำ พร้อมฝากไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้เข้มงวดกวดขัน และป้องกันปราบปรามการทารุณกรรม และประเพณีโซตัสในสถานศึกษามากขึ้น