คอลัมน์หมายเลข 7 : ส่องปมเลี่ยงภาษีนำเข้ารถหรู 1,020 คัน ก่อนเส้นตายเดือน มี.ค.

ข่าวภาคค่ำ - ใกล้จะถึงวันครบกำหนดคำมั่นสัญญาของดีเอสไอ ซึ่งเคยแถลงเอาไว้กับสังคม ว่าจะตามแจ้งข้อกล่าวหาคดีอาญากับขบวนการหลีกเลี่ยงภาษีรถหรูให้ได้ครบทุกคน วันนี้คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว และจะเรียกคืนเงินภาษีได้หรือไม่ ติดตามในคอลัมน์หมายเลข 7

อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้จะครบกำหนดวันขีดเส้นตายที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แถลงคำมั่นสัญญาเอาไว้กับสังคม บอกว่าจะตามแจ้งข้อกล่าวหาคดีอาญากับขบวนการหลีกเลี่ยงภาษีรถหรู ที่มีการส่งออกจากสหราชอาณาจักรเข้ามายังประเทศไทย จำนวน 1,020 คัน ให้ได้ครบทุกคน โดยจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมีนาคม

คอลัมน์หมายเลข 7 ติดตามความคืบหน้า พบว่า เวลานี้ดีเอสไอ ยังไม่สามารถตามแจ้งข้อกล่าวหากับผู้นำเข้ารถยนต์หรูได้ครบทั้งหมด 114 คดี และคาดว่าจะต้องขยายเวลาออกไป

ขณะที่เวลานี้มีรถหรูที่ค้างอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุดจำนวน 60 สำนวน

เส้นทางการทำคดีรถหรู นอกจากจะกลายเป็นมหากาพย์เพราะใช้เวลาตรวจสอบยาวนานจนทำให้บางคดีหมดอายุความไปแล้ว ในระหว่างทางของคดี ยังมีประเด็นฉาวที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐเกิดขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะเรื่องการทุจริต เรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีนอก มีใน

เช่น อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของดีเอสไอ อักษรย่อ ม. ซึ่งถูก ป.ป.ช. เรียกไปสอบสวน ยืนยันความบริสุทธิ์ กรณีสั่งคืนของกลางรถหรู 4 คัน และการถอนอายัดรถยนต์ของกลาง 20 คัน มูลค่าความเสียหายต่อรัฐ กว่า 496 ล้านบาท จนเป็นเหตุให้รถยนต์ของกลาง ถูกโอนเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองไปแล้ว 10 คัน

นอกจากนี้ยังพบว่า ในมีเจ้าหน้าที่ศุลกากร ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการหลีกเลี่ยงภาษีรถหรู และส่อเค้าว่าจะลามไปถึงอัยการอีกด้วย ถึงขั้นมีเสียงลือหนาหู เรียกรับเงินคันละล้านบาท แลกกับการถอนอายัดรถหรู

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องราวเกี่ยวกับความไม่โปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งกินเงินภาษีของประชาชน ในห้วงหลายปีที่ผ่านมา เกี่ยวกับคดีรถหรู ยิ่งสาวก็ยิ่งฉาว เพราะข้อมูลที่ปรากฏ ต่างพัวพันเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ในขณะที่การสืบสาวลากตัวคนผิดมาลงโทษ และการทวงคืนภาษีกลับคืนสู่แผ่นดิน ยังคงไร้วี่แวว