คอลัมน์หมายเลข 7 : จี้ลากไส้ระบบอุปถัมภ์ หลัง กก.จริยธรรมฯ ตักเตือน ธานี ปม ส.ต.ท.หญิง

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 เปิดผลสอบคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ตักเตือน นายธานี อ่อนละเอียด หลังใช้เวลาสอบสวนยาวนานหลายเดือน กรณีแต่งตั้ง ส.ต.ท.หญิง เข้ารับราชการ และการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใน กมธ.วุฒิสภา ติดตามกับคุณสุธาทิพย์ ผาสุข 

ภาพคลิปเหตุการณ์สะเทือนใจ ทหารรับใช้หญิงถูกเจ้านายทำร้ายอย่างทารุณ เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการเรียกร้องขยายผล สาวไปถึงเบื้องลึกของเหตุการณ์ ซึ่งไม่ใช่แค่ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ แต่ให้ตรวจสอบไปถึงระบบอุปถัมภ์ที่มีฝ่ายการเมืองเป็นแกนกลาง ใช้เส้นสายประสานเชื่อมต่อให้ผู้ก่อเหตุ ซึ่งจบด้านบัญชี วุฒิ ปวส. เข้ารับราชการตำรวจ

รวมถึงให้ไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อรับเงินเดือนและเบี้ยเสี่ยงภัย แต่ในขณะที่เจ้าตัว ไม่ได้ไปปฏิบัติงานที่ภาคใต้จริง อีกทั้งยังให้ตำแหน่งกรรมาธิการฯ ต่าง ๆ อย่างน้อย 4 ชุด 

ธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา คือบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ามีสัมพันธ์พิเศษใกล้ชิดกับสิบตำรวจโทหญิงผู้ก่อเหตุ และถูก นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.บัญชีรายชื่อ ร้องเรียนนต่อคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา ให้ตรวจสอบพฤติกรรมเมื่อวันที่ 2 กันยายนปีที่แล้ว

ล่าสุด จากการติดตามผลสอบคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา มีข้อมูลว่า คณะกรรมการจริยธรรม ได้มีบทสรุปเรื่องนี้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยมีมติให้ลงโทษตักเตือน นายธานี เนื่องจากเป็นผู้เสนอชื่อให้สิบตำรวจโทหญิง ได้รับตำแหน่งในกรรมาธิการฯ ของวุฒิสภา แต่กลับไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ให้คุ้มค่าต่อค่าตอบแทน อีกทั้งยังมีความประพฤติไม่เหมาะสม จนนำไปสู่ความเสื่อมเสียต่อวุฒิสภา โดยไม่เกี่ยวกับปมชู้สาว เพราะ นายธานี มีสถานะโสด

ซึ่งในมุมมองของผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบ เรียกร้องให้แถลงเปิดเผยผลสอบข้อมูลเป็นสาธารณะ 

แม้จะมีข้อมูลความคืบหน้าผลสอบคณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา แต่สิ่งที่ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนให้กับสังคมเวลานี้ คือการสาวไส้เรื่องราวของระบบอุปถัมภ์ จากตำรวจไปถึงทหารและวุฒิสภา 

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนต่อจากนี้ คณะกรรมการจริยธรรมวุฒิสภา จะต้องสรุปผลรายงานต่อที่ประชุมวุฒิสภาตามข้อบังคับ ซึ่งขึ้นอยู่กับ นายพรเพชร ประธานวุฒิสภา จะบรรจุในวาระเมื่อใด แต่เมื่อพิจารณาจากการประชุมวุฒิสภาที่เหลืออีกเพียงแค่ 3 นัด มีแนวโน้มสูงว่าอาจจะพิจารณาไม่ทันในสมัยประชุมนี้

และคำถามสำคัญที่เกี่ยวกับการจัดการกับระบบอุปถัมภ์ กินรวบ ที่แฝงตัวเป็นเหลือบ ไร อยู่ในระบบราชการ ยังดูไร้คำตอบ เพราะทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ใช้วิธีปล่อยให้เรื่องเงียบ แล้วซุกไว้ใต้พรม จึงต้องถามสังคมว่าจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปหรือ