มูลนิธิ วิน วิน รับดูแลพ่อแม่ นางสาว น. ระหว่างถูกดำเนินคดี

เช้านี้ที่หมอชิต - ก่อนจะมารับสารภาพ ย้อนไปดูคำให้การของ นางสาว น. พบว่าเธอได้พูดโกหกไว้หลายครั้ง โดยผู้ที่อยู่เบื้องหลังคำรับสารภาพของ นางสาว น. คือมูลนิธิแห่งหนึ่ง ที่รับปากว่าจะดูแลพ่อกับแม่ของ นางสาว น. ให้ หลังจากที่เธอถูกดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ตำรวจนำตัว นางสาว น. ไปสอบปากคำเพิ่มเติมเมื่อวานนี้ (27 ก.พ.) ที่ สภ. บางหลวง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม นายวินท์ สุธีรชัย ประธานมูลนิธิวิน วิน ได้มาติดตามดูแลตลอด รวมไปถึงการให้คำปรึกษากับพ่อของ นางสาว น. ในการยื่นประกันตัวลูกสาว

นายวินท์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ว่า ทางมูลนิธิฯ ได้ส่งทีมงานมาดูแลตั้ง แต่วันแรกที่มีการช่วยค้นหาเด็ก หลังหายตัวไป สิ่งที่พบในพื้นที่ คือ ชาวบ้าน และตัว นางสาว น. ไม่มีความเชื่อมั่นและไม่สบายใจที่จะคุยกับตำรวจและเจ้าหน้าที่รัฐ ประกอบกับมีความเป็นห่วงว่าจะไม่มีใครดูแลพ่อที่แก่ชรา และแม่ที่ป่วยติดเตียง

มูลนิธิฯ จึงมาเป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนเป็นที่มาที่ทำให้ นางสาว น. ยอมเปิดใจกับเจ้าหน้าที่รัฐและตำรวจ หลังจากนี้ มูลนิธิฯ จะให้ความช่วยเหลือครอบครัวของ นางสาว น. ต่อไป เพื่อให้ นางสาว น. เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้อย่างสบายใจ

ส่วนคำรับสารภาพว่าทำลูกหลุดมือ ตกกระแทกพื้นจนเสียชีวิต แล้วนำศพไปทิ้งริมแม่น้ำนั้น ย้อนกลับไปดูคำโกหกและคำสารภาพของ นางสาว น.

1. นางสาว น. บอกว่า ลูกหายไป เวลา 05.30 น.
- แต่ล่าสุดบอกว่า เด็กร่วงจากมือกระแทกพื้น ช่วงเวลา 03.00 - 03.30 น.

2. นางสาว น. บอกว่า มีชายเสื้อเหลืองมาอุ้มลูกไป
- สารภาพว่าโกหก ชายเสื้อเหลืองไม่มีอยู่จริง

3. นางสาว น. บอกว่าเด็ก 8 เดือน เป็นลูกนาย พ.
- ผล DNA ยืนยันว่าเด็ก 8 เดือน เป็นลูกนาย จ.

4. นางสาว น. มอบผ้าผืนหนึ่งอ้างว่าเป็นของ เด็ก 8 เดือน ให้หมอหนึ่ง นำไปทำพิธีกรรม เรียกของรักกลับมา
-  นางสาว น. สารภาพว่า ผ้าผืนนั้นไม่ใช่ของเด็ก 8 เดือน ลูกชายที่หายตัวไป

5. ตำรวจสอบปากคำ
- นางสาว น. ให้การขัดแย้งกันทุกครั้ง, บิ๊กโจ๊ก พูดมาตลอดว่า นางสาว น. พูดความจริงไม่หมด 

6. นางสาว น. เข้าเครื่องจับเท็จ
- เส้นกราฟพบความผิดปกติ

ในขณะที่เพจเฟซบุ๊กของมูลนิธิกระจกเงา ซึ่งติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นเช่นกัน ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ นางสาว น. บทสัมภาษณ์นี้เรียบเรียงไว้ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ แต่ตัดสินใจไม่เผยแพร่ เพราะช่วงนั้นมีกระแสข่าวค่อนข้างรุนแรง แต่วันนี้อยากให้สังคมมองเห็นเส้นทางการมีชีวิตของเด็กหญิงคนหนึ่ง ว่าก่อนที่จะมาสู่ผู้กระทำความผิดในวันนี้ มีรากฐานและเติบโตขึ้นมาจากสิ่งใด

เนื้อหาในบทสัมภาษณ์ นางสาว น. เปิดเผยว่า เธอโตมาในครอบครัวที่ลำบาก ไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง ไม่มีเพื่อนสนิท และถูกบุลลีมาโดยตลอด คิดจะเรียนต่อให้สูง ๆ ก็ไม่มีโอกาส ทั้ง ๆ ที่ผลการเรียนดี ขณะที่พ่อก็มักจะดื่มเหล้าเมาแล้วมีปัญหาทะเลาะกับแม่ตลอด "ตอนคลอดน้อง เจ็บท้องมาก เป็นความเจ็บที่สุดในชีวิต ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมีน้อง แต่หลุดมา รู้ตัวว่ามีลูกตอนท้องได้เดือนหนึ่ง พอรู้ หนูตั้งใจเก็บไว้ คิดว่ามีก็มี ไม่เคยคิดว่าจะเอาเขาออก เราไม่มีเงินเก็บสำหรับคลอดลูกเลย เราไม่มีอะไรเลยจริง ๆ มีแต่ของที่คนอื่นให้มา ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลหนูก็ยังไม่มีอะไรเลย"

"ถามว่า ถ้ากลับไปแก้ไขอดีตได้จริง ๆ มันก็แก้อะไรไม่ได้แล้ว วันนี้เป็นวันที่หนูรู้สึกไม่เหลือใคร ไม่เหลือใครจริง ๆ"