ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

หนุ่มขับรถเก๋งใช้เหล็กฟาดหัวลุงขี่รถ จยย. เหตุขับขี่ช้า

เช้านี้ที่หมอชิต - หนุ่มใช้ท่อนเหล็กตีหัวลุงวัย 64 ปี บาดเจ็บ เข้าให้ปากคำตำรวจ เหตุเพราะโมโหที่ลุงขี่รถจักรยานยนต์เลี้ยวออกมาจากซอยตัดหน้ารถยนต์และยังขี่ช้า ทำให้รู้สึกหงุดหงิด

เพจอีซ้อขยี้ข่าว 2 โพสต์คลิปนี้ไว้ในภาพจะเห็นว่า ลุงวัย 64 ปีขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากซอยประชาอุทิศ 14 พร้อมก้มหัวคำนับขอบคุณรถยนต์คันที่มาจากทางตรง ซึ่งเป็นรถยนต์ของผู้ก่อเหตุ จากนั้นลุงก็เลี้ยวรถขี่ไปตามถนน คลิปต่อมา ซึ่งต่อเนื่องกันจะเห็นรถจักรยานยนต์ของลุง มาจอดรถอยู่ริมถนน และมีรถยนต์ของผู้ก่อเหตุมาจอดด้านหลัง และลงจากรถไปโต้เถียงกับลุงประมาณ 2 นาที จากนั้นผู้ก่อเหตุได้กลับไปหยิบท่อนเหล็กในรถออกมาทำร้ายร่างกายลุง จนบาดเจ็บที่ศีรษะ ก่อนจะมีชาวบ้านมาช่วยห้าม

ทีมข่าวเดินทางไปยังซอยประชาอุทิศ 27 พูดคุยกับ ร้อยตรีวิเชียร รัมย์พึงวรณ์ อายุ 64 ปี ลุงผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ถูกทำร้าย เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 8 โมงเช้า ตนขี่รถจักรยานยนต์ไปตลาด เพื่อซื้ออาหาร ให้ภรรยาที่ป่วยโรคไต หลังซื้อของเสร็จ ขี่รถออกจากซอยประชาอุทิศ 14 เลี้ยวขวากำลังจะกลับบ้าน ก็มีรถยนต์หยุดรถให้ ตนก็ก้มโค้งคำนับขอบคุณที่ให้ทาง และขับขี่รถมาเรื่อย ๆ ช้า ๆ ชิดซ้าย จากนั้น มีรถเก๋งคันสีขาว ขับเข้ามาเทียบข้าง ๆ ตะโกนบอกให้ขับรถเร็ว ๆ ตนแก่แล้วไม่ขับขี่รถเร็ว กลัวเกิดอุบัติเหตุ จึงบอกไปว่า "ผมขับรถไวมากไม่ได้ผมกลัวตาย" ชายคนขับรถเก๋ง จึงเรียกให้จอดข้างทาง เมื่อจอดแล้วชายคนดังกล่าวก็ด่า ตนนิ่งเฉยไม่โต้ตอบ ได้แต่บอกว่า "ผมทำอะไรผิดหรือเปล่าครับ" โดยพูดมีหางเสียงทุกคำ แต่ว่าชายคนนั้น กลับท้าชกต่อย ด้วยความที่ตนเคยเป็นนักมวย เวลาปฏิเสธก็จะบอกว่า "ต่อยได้แต่ต้องต่อยบนเวที เพราะได้เงิน แต่ถ้าต่อยนอกเวที ข้างล่างเวที กลัวเจ็บตัวเสียตัวฟรี ไม่ได้เงิน" ชายคนดังกล่าว พยายามเข้ามาหาเรื่อง และไปหยิบเหล็กมาจากรถ ตนได้แต่ยกมือบอกว่าใจเย็นๆ อย่ามีเรื่องมีราวกันเลย แต่โดนใช้เหล็กตีที่หน้าแข้งและขา ทำให้เหล็กไปโดนโทรศัพท์แตก ระหว่างที่ตนก้มดูขาว่าบาดเจ็บไหม ก็ถูกเหล็กตีที่หัว

ต่อมามีพลเมืองดี ขับรถผ่านไปมา เข้ามาช่วยห้าม ซึ่งตนไม่รู้เหตุการณ์หลังจากนั้น เพราะตอนนั้นเลือดออกเยอะมาก ตอนนี้ยังคงปวดหัว มึน ๆ อยู่ หมอเย็บทั้งหมด 5 เข็ม ยังต้องทานยาลดปวด

ส่วนตัวผู้ก่อเหตุทราบตัวแล้ว คือ นายสิร อายุ 41 ปี เดินทางไปยังสถานีตำรวจนครบาลราษฎร์บูรณะ เพื่อให้ปากคำกับตำรวจ โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงในการสอบปากคำ จากนั้น นายสิร ได้ออกมาพูดเพียงสั้น ๆ ว่า ตนเองขอโทษผู้เสียหายไปแล้วตั้งแต่วันที่ผู้เสียหายมาแจ้งความแล้ว ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุเพราะความอดทนของตนมีขีดจำกัด ส่วนอาวุธที่นำมาทำร้ายก็หาหยิบจากจุดเกิดเหตุ แต่อยากให้ไปถามทางผู้เสียหายเองว่า วันเกิดเหตุพูดอะไรไว้ ส่วนเรื่องที่ระบุว่า ตนเป็นขาใหญ่ในพื้นที่ ตนไม่เคยพูดหรืออ้างตัว มีแต่ฝ่ายผู้เสียหายที่อ้างว่ารู้จักนายพัน ซึ่งต่อจากนี้ตนยืนยันว่าจะไม่หัวร้อนและก่อเหตุแบบนี้อีก จากนั้นนายสิรได้เดินขึ้นรถยนต์แล้วขับออกไป

เบื้องต้น ตำรวจตรวจปัสสาวะนายสิร ไม่พบว่ามีสารเสพติด จึงมีการสอบปากคำและแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งต่อจากนี้ต้องรอผลแพทย์จากทางผู้เสียหายอีกครั้ง หากแพทย์มีความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบาดเจ็บสามารถแจ้งข้อหาได้ก็จะทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม แต่หากไม่ได้ก็จะนำผลแพทย์เข้าสำนวนคดีและนัดวันส่งตัวผู้ต้องหาต่อศาลต่อไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark