รวบแก๊งลักลอบค้าลิงแสม 47 ตัว ส่งจีน จ.นครราชสีมา

เช้านี้ที่หมอชิต - ไปดูชะตากรรมลิงแสมตัวน้อย ถูกจับอัดกันในกล่องยัดท้ายรถกระบะแน่น 47 ตัว เพื่อส่งขายไปเมืองจีน คนช่วยถึงกับสะเทือนใจ ทำได้ลงคออย่างไร

นี่เป็นภาพที่สัตวแพทย์พยายามช่วยชีวิตลิงแสมตัวหนึ่งที่นอนหมดสติอยู่ในกล่องท้ายรถกระบะของขบวนการค้าสัตว์ป่าที่เจ้าหน้าจับกุมได้

กล่องสี่เหลือมที่เห็นอยู่นี้ มีลิงจำนวนถึง 47 ตัวที่ถูกยัดใส่กันมา ทำให้ลิงจำนวนมากหมดสติ โดยเฉพาะลิงตัวนี้ขาดอากาศหายใจจนหมดสติ เป็นภาพที่ชวนสังเวชใจแก่เจ้าหน้าที่ที่ให้การช่วยเหลือ ไปฟังเสียงตอนเจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตลิงตัวนี้กัน

จะเห็นได้ว่า สัตวแพทย์ต้องจับมือน้องอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็นำมาเป่าด้วยไดร์เป่าผม และให้น้ำเกลือต่อ เพื่อพยายามช่วยชีวิตกันอย่างเต็มที่ 

ลิงแสมทั้ง 47 ตัวในถุงตาข่าย แล้วยังยัดไว้ในกล่องสี่เหลี่ยมนี้ ตำรวจตู้ยามทางหลวงบ้านส้ม จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีขบวนการค้าสัตว์ป่า ขนย้ายสัตว์ป่าเป็นลิงแสมจำนวนมาก ผ่านมายังเส้นทางถนนมิตรภาพทางหลวง หมายเลข 2 บริเวณแยกบ้านสัมฤทธิ์ เขตตำบลธารปราสาท อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา จึงนำกำลังเข้าสกัดจับกุม พบรถกระบะโตโยต้า สีดำ ทะเบียน ฒผ-8121 นครราชสีมา มีท่าทางพิรุธตรงกับที่สายข่าวรายงาน จึงเข้าทำการตรวจสอบ พบว่าที่ท้ายกระบะ มีลังพลาสติก 6 ลัง บรรจุลิงจำนวนมาก สภาพแออัดยัดเยียด เป็นลิงแสม นับจำนวนได้ทั้งหมด 47 ตัว จึงควบคุมตัวคนขับ ทราบชื่อคือ นายกฤตยา อายุ 43 ปี ชาวตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ขณะเดียวกัน ยังจับกุม นายกฤษณะ อายุ 37 ปี ชาวอำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นคนขับรถกระบะอีกคัน ทำหน้าที่นำหน้าเคลียร์เส้นทางให้อีกด้วย

ทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่า ขนลิงแสมทั้งหมดมาจากพ่อค้าในจังหวัดราชบุรี เตรียมนำไปส่งปลายทางในจังหวัดหนองคาย เพื่อส่งต่อให้นายทุนในประเทศจีน ซึ่งมีคำสั่งซื้อขายในราคาตัวละ 10,000 บาท เพื่อนำไปบริโภคเมนูพิสดารเป็นยาชูกำลัง

คนขับรถขนส่งอ้างว่า ไม่ทราบว่าลิงแสมที่ขนมาเป็นสัตว์ป่าหวงห้าม ตำรวจจึงได้นำลิงทั้งหมดมาอนุบาลไว้ที่ตู้ยามตำรวจทางหลวงบ้านส้ม เพราะมีลิง 1 ตัว มีอาการป่วย หายใจรวยริน ต้องปฐมพยาบาลให้การรักษาเร่งด่วน

เจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาฐานความผิดครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด ควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ส่วนลิงทั้งหมด ได้ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดูแลและเก็บรักษาจนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป