ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

จับผัวคลั่งราดน้ำมันเผาเมีย ก่อนแทงดับ อ้างทำไปเพราะรัก

เช้านี้ที่หมอชิต - หลังจากตำรวจฝ่ายสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางปู ร่วมกันติดตามจับกุมตัว นายพิสุทธ์ศิริ จันทร์โสดา อายุ 42 ปี ผู้ก่อเหตุลงมือราดน้ำมันและจ้วงแทงแฟนสาวตนเองจนถึงแก่ชีวิตในสภาพเปลือย เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา โดยจับกุมตัวได้บริเวณลานดินริมถนนเทพรัตนใกล้เคียงแม่น้ำบางปะกง อำเภอบางประกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อวานนี้ ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่ากำลังตัดสินใจจะไปจบชีวิตตัวเอง ซึ่งการจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้เกิดขึ้นท่ามกลางความโล่งใจของญาติฝ่ายหญิง คำถามคืออะไรคือสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุสลดนี้ขึ้นมา

เมื่อวานนี้ตำรวจควบคุมตัว นายพิสุทธิ์ศิริ พร้อมด้วยรถกระบะและของกลางที่ใช้ก่อเหตุ มายัง สภ.บางปู เจ้าตัวให้การอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้เตรียมการลงมือฆ่า และที่ทำไปเพราะความรักและความหึงหวง

เจ้าตัว บอกว่า อยากขอโทษคนตายและครอบครัว แต่เนื้อหาที่พูดออกมาในเรื่องความหึงหวง สงสัยว่าผู้หญิงปันใจให้ชายคนอื่น ทั้งหมดนี้คนตายพูดไม่ได้ เป็นการพูดของผู้ก่อเหตุฝ่ายเดียว

มีสิ่งที่น่าสนใจคือ มีข้อมูลจากทางฝั่งญาติคนที่เสียชีวิตว่า ชายคนที่ก่อเหตุใช้ความรุนแรงตบตีผู้เสียชีวิตมานาน จนเริ่มทนไม่ไหว และทางผู้เสียชีวิตเตรียมจะพูดคุยเพื่อขอเลิก ก่อนวันที่เกิดเหตุเพียง 1 วัน คือวันที่ 5 มีนาคม มีกล้องวงจรปิดที่หอพักแห่งหนึ่ง ที่จับภาพคนที่เสียชีวิตนั่งวินมอเตอร์ไซค์กลับมาที่พัก มีการยืนยันจากญาติว่าเธอเดินทางกลับมาเพื่อต้องการพูดคุยกับฝ่ายชายให้ชัดเจน แต่กลับกลายเป็นว่านี่คือการเดินทางมาพบกับจุดจบ

ไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ ตอนเช้าวันเกิดเหตุ คนก่อเหตุชวนแฟนสาวไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งย่านคลองเก้า โดยคนก่อเหตุไปรับที่หน้าปากซอยรสทิพย์ ถนนสุขุมวิท-บางปู อำเภอเมืองสมุทรปราการ ก่อนจะพาเดินทางไปที่วัด แต่ขณะที่กำลังเดินทางไปที่วัด ปรากฏว่าทั้งคู่มีปากเสียงกัน ก่อนจะออกจากวัดราว ๆ 11.00 น. และเริ่มพูดคุยเพื่อเคลียร์ใจกัน

ผู้ต้องหา อ้างว่า ช่วงเที่ยงเหมือนจะดีกันแล้ว ยังไปจอดรถหน้าสนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ผลัดกันถอนหงอกซึ่งกันและกัน คงไม่มีอะไร แล้วก็หลับไป

แต่หลังจากตื่นขึ้นมาก็ทะเลาะกันรอบใหม่ ผู้ก่อเหตุอ้างตรงนี้ว่าผู้หญิงกับเขาต่างก็หยิบน้ำมันที่อยู่ในรถมาสาดใส่กันไปมา ต่างก็ขู่จะจุดไฟเผา แต่สุดท้ายก็มีการเคลียร์ใจกันรอบที่สอง พอสงบลง ช่วงบ่ายโมง ก็ถอดเสื้อผ้าจะเปลี่ยน นี่เป็นเหตุผลที่ต่อมาผู้หญิงอยู่ในสภาพเปลือย

แต่ประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่ว่า จู่ ๆ ผู้หญิงบอกผู้ชายว่าอยากกินน้ำ ผู้ชายก็ลงไปซื้อ ผู้ชายลงไปซื้อแล้วก็รีบขึ้นรถ แต่ใกล้ ๆ กันมีรถเข็นไอศกรีม ผู้ก่อเหตุอยากกินไอศกรีม คนขายบอกว่าทำไมไม่ลงมาซื้อ จังหวะนั้นพอผู้ชายลงไป ผู้หญิงจึงรีบเปิดประตูรถวิ่งออกมา ผู้ชายวิ่งตามไปลงมือ จนกลายเป็นเหตุการณ์สลดตามที่ปรากฏในข่าว ซึ่งจุดนี้น่าจะสรุปได้ว่าที่ผู้ตายอยากกินน้ำน่าจะเป็นอุบายเพื่อจะหลบหนีตั้งแต่แรกหรือไม่ และหากผู้ชายยืนยันข้อเท็จจริงว่าที่ทะเลาะกันแล้วได้เคลียร์ใจกันไปแล้ว จนถอดเสื้อผ้าจะเปลี่ยนในรถ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่โกหก เพราะการที่ผู้หญิงวิ่งลงมาเอาชีวิตรอด น่าจะสะท้อนความกลัวบางอย่าง

เมื่อวานนี้ หลังผู้ก่อเหตุถูกจับกุมตัวได้ ญาติ ๆ ของผู้เสียชีวิตที่กำลังเตรียมจัดงานศพ ต่างอยู่ในอาการโศกเศร้า

ส่วน พี่สาว บอกว่า รู้สึกเสียใจมาก ครอบครัวไม่เคยพอใจที่น้องไปคบหากับผู้ก่อเหตุ เพราะดูไม่น่าเชื่อถือ พูดไม่ดี อีกทั้งยังเล่นการพนัน และหึงหวง ลงมือทำร้ายร่างกายบ่อยมาก ส่วนมากจะทะเลาะเรื่องรถยนต์ เพราะผู้ตายส่งงวดรถคนเดียวเดือนละ 12,000 บาท มาประมาณ 3 ปี เพราะรถเป็นชื่อของน้องสาว ซึ่งล่าสุดน้องสาวทะเลาะกับผู้ก่อเหตุ และเลิกกันได้ 10 กว่าวันแล้ว ผู้ตายย้ายออกจากห้องเช่าไปอยู่กับเพื่อน เพียงแต่ยังไม่ได้ขนย้ายข้าวของออกจากห้องเช่า และคนก่อเหตุยังเอารถไปด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่น้องสาวกลับไปที่หอพักก่อนเสียชีวิต ก็เพื่อไปเจรจาพูดคุยเรื่องรถ เพื่อจะขอเลิกกับ นายพิสุทธ์ศิริ นั่นเอง

และในวันนี้จะมีการฌาปนกิจในบ่าย (8 มี.ค.) ซึ่งครอบครัวบอกว่าอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีถึงที่สุด ให้ผู้ก่อเหตุรับโทษสูงสุดคือประหารชีวิต

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark