ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

แม่หลั่งน้ำตา เจอแล้วฮีโร ช่วยลูกพ้นมัจจุราช จ.สุราษฎร์ธานี

ข่าวภูมิภาค 8 มีนาคม 2566 - สนามข่าว 7 สี - เป็นอีกครั้งกับเรื่องน่าชื่นชม เมื่อคุณแม่รายหนึ่งพยายามตามหาบุคคลที่ช่วยลูกชายของเธอ ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง หลังหัวใจหยุดเต้น เนื่องจากอุบัติเหตุทางถนน จากที่ประกาศตามหาตัวฮีโรไป พลังโซเชียลก็แจ้งข้อมูล ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้เจอกัน

นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพนาทีชีวิต อุบัติเหตุบริเวณหน้าร้านอาหาร ริมถนนพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จะสังเกตเห็นรถกระบะคันหนึ่งซึ่งอยู่ในเลนซ้ายสุด เลี้ยวกลับรถในระยะกระชั้นชิด เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ที่ขี่มาทางตรงมาพุ่งชนอย่างเต็มแรง ทำให้ นายเจมส์ อายุ 20 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์บาดเจ็บสาหัส ถึงขั้นหัวใจหยุดเต้น เคราะห์ดีที่มีพลเมืองดีผ่านมาพบ และทำการปั๊มหัวใจช่วยชีวิตได้ทันเวลา

แพทย์ ระบุ นายเจมส์ ปอดแตก มีเลือดท่วมปอด กระดูกไหปลาร้าและกระดูกเชิงกรานหัก ต้องผ่าตัดและเฝ้าดูอาการในห้องไอซียู นานกว่า 2 สัปดาห์ ทันทีที่พูดคุยได้ นายเจมส์ ก็บอกกับแม่ว่า "ผมจะบวชให้พี่นักศึกษาที่ปั๊มหัวใจช่วยชีวิต" ทำให้ผู้แม่ต้องรีบโพสต์ลงโซเชียล ตามหาฮีโรคนนี้

หลังโพสต์ไปไม่นาน ก็มีผู้คนเข้ามาให้ข้อมูลว่า ชายฮีโรคือหนึ่งในอาสาสมัครมูลนิธิกุศลศรัทธาท่าโรงช้างกู้ชีพ-กู้ภัยทาโรงช้าง จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีชื่อเล่นว่า "ฟิล์ม" อายุเพียง 17 ปี เท่านั้น นำพาไปสู่การพบหน้ากันระหว่างแม่ผู้บาดเจ็บกับฮีโรในที่สุด

ทีมข่าวได้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ นายฟิล์ม เขาบอกว่าการช่วยหนึ่งชีวิต ให้พ้นจากเงื้อมมือมัจจุราช เป็นหน้าที่ของกู้ภัยทุกคน

"น้องฟิล์ม" พลเมืองดี บอกอีกว่า นี่เป็นเคสแรกที่ได้ปั๊มหัวใจ หลังผ่านการอบรมหลักสูตรการช่วยชีวิต เมื่อผ่านมาเจออุบัติเหตุ เห็นคนเจ็บแน่นิ่งกลางถนน จึงนำความรู้มาใช้ ระบุสิ่งที่ทำไปไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทน เพราะตั้งใจจะทำงานช่วยเหลือสังคม เหมือนกับพ่อและพี่ชาย ที่เป็นอาสาสมัครกู้ภัยเช่นกัน

สำหรับอาการของ นายเจมส์ คนขี่รถจักรยานยนต์ ตอนนี้แพทย์อนุญาตให้กลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะยังต้องดามกระดูกหลายจุด และระวังการติดเชื้อ ทั้งนี้แพทย์ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าผู้บาดเจ็บจะกลับมาเป็นปกติได้หรือไม่

แม่ของนายเจมส์ ยืนยันว่า เมื่อหายดีแล้ว ลูกชายจะบวชให้กับฮีโรอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ยังรู้สึกกังวลใจเรื่องคดีความ เพราะเป็นฝ่ายถูก ส่วนคนขับรถกระบะคู่กรณี ตำรวจเรียกตัวมาสอบปากคำแล้ว แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ประกอบกับฝ่ายคู่กรณีนำหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความมาให้ลงชื่อด้วย จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

คดีนี้ผ่านมาแล้วเกือบ 1 เดือน (15 ก.พ.) ครอบครัวผู้บาดเจ็บจึงอยากให้มีการดำเนินคดีกับคนขับรถกระบะ ซึ่งตำรวจจะได้เรียกผู้บาดเจ็บเข้าให้ข้อมูล ก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหากับคนขับรถกระบะ รวมถึงเรื่องเยียวยาค่าเสียหาย และค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดต่อไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark