ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

แพทย์ลืมดอกสว่านในขาป้า จนอักเสบ

เช้านี้ที่หมอชิต - แพทย์ลืมดอกสว่าน ทิ้งไว้ในขาป้า วัย 57 ปี จนอักเสบ สถานพยาบาลไม่เยียวยากลับนิ่งเฉย เข้าร้องเรียนทนายรณณรงค์

วานนี้ ที่สำนักงานทนายคู่ใจ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้มีลูกชายและญาติ ช่วยกันประคองคุณป้าเดินขาเจ็บ เข้าร้องเรียน ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กรณีไม่ได้รับการเยียวยาหรือช่วย เหลืออย่างเป็นธรรม จากแพทย์และโรงพยาบาลที่เข้ารับ การรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ ซึ่งต่อมาได้รับผลข้างเคียงจากการ รักษาบาดแผลทำให้เกิดการติดเชื้อ จากการลืมอุปกรณ์ ทางการแพทย์หรือดอกสว่านยาว ประมาณ 1 นิ้วเอาไว้ในขาข้างขวาที่ได้รับบาดเจ็บ

คุณจันทรา วุฒิยานันท์ อายุ 57 ปี เปิดเผยว่า เมื่อปี 2559 ได้ประสบอุบัติเหตุทำให้ต้องร้อยใส่ เหล็กดามขา 7 เส้น ต่อมาปี 2560 ได้ไปถอดเหล็กที่ขาออก 6 เส้น แต่คงเหลือเอาไว้ 1 เส้น ซึ่งขาก็เกิดอาการอักเสบ เป็นหนอง มีอาการปวด ไม่สามารถเดินได้ จึงไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเรื่อยมา ได้ขอให้แพทย์เอาเหล็กออกให้ แต่แพทย์แจ้งว่าไม่สามารถเอาออกให้ได้

จนกระทั่งปี 2565 เกิดอาการขาข้างขวามีอาการปวด บวมขึ้นจนทนไม่ไหว เพราะบริเวณที่เจาะเหล็กดามขาไว้ แผลได้เริ่มมีน้ำหนอง ไหลอักเสบออกมามากขึ้น จึงได้เข้าพบหมอที่โรงพยาบาลค่าย อดิศร จังหวัดสระบุรี ต่อมาทางโรงพยาบาลค่ายอดิศร ส่งตัวมายังโรงพยาบาลพระมงกุฎ ที่กรุงเทพฯ แพทย์แจ้งว่ากระดูกติดเชื้อ จึงผ่าตัดพบว่า มีดอกสว่านตกค้างอยู่ภายในขา แพทย์จึงผ่าตัดออกให้ พอผ่าตัดเอาดอกสว่านออกแล้ว แผลที่อักเสบมาตลอด ก็มีอาการดีขึ้นตามลำดับ เมื่อสอบถามกลับไปทางโรงพยาบาลสระบุรี ก็ไม่ได้รับคำตอบหรือคำชี้แจงอะไร ใด ๆ กลับมาเลย    

อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทางกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นต้นสังกัดให้ลงมาดูแลช่วยเหลือให้ได้รับการเยียวยาอย่างเป็นธรรมในเรื่องนี้ เพราะต้องกลายเป็นผู้ทุพพลภาพ ได้รับผลกระทบจากบุคคลากรทางการแพทย์ ทำให้ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากและขาดโอกาสในการทำงาน

ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ทาง สปสช. และ กระทรวงสาธารณสุข หรือสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี ต้องลงมาดูแลตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ว่า กรณีแพทย์ได้ลืมสิ่งของหรือดอกสว่าน เอาไว้ในร่างกายของประชาชน แบบนี้ ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์จริงหรือไม่ ทำไมทางโรงพยาบาลที่รักษาไม่ เยียวยาผู้บาดเจ็บและได้รับผลกระทบ ทำให้ขาดโอกาสประกอบ อาชีพได้ไม่สมบูรณ์

เบื้องต้นเท่าที่ทราบมีวงเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไม่เกิน 400,000 บาท ขอแจ้งเรื่องเรียนไปถึงรัฐมนตรีว่า การกระทรวงสาธารณสุข ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ด้วย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark