ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

สุรเชษฐ์ เปิดเอกสารใหม่ รถไฟฟ้าสายสีส้ม ยืนยันส่วนต่าง 68,000 ล้าน มีจริง

เช้านี้ที่หมอชิต - สุรเชษฐ์ ก้าวไกล เปิดเอกสารใหม่ที่ได้รับจากข้าราชการกระทรวงคมนาคม ยืนยัน ข้อเสนอ บีอีเอ็ม ที่ชนะประมูลสัมปทานรถไฟสายสีส้ม คืนผลตอบแทนให้รัฐน้อยกว่าข้อเสนอ บีทีเอส ส่วนต่าง 68,000 ล้านบาท มีอยู่จริงแน่นอน

สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เอกสารที่นำมาเปิดเผยคือ ข้อเสนอของ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีอีเอ็ม ที่ชนะการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ในปี 2565 หลังจากล้มประมูลในปี 2563 ซึ่งเอกสารชุดนี้ ตนได้พยายามขอมาหลายครั้งผ่านทุกช่องทาง แต่ก็ไม่เคยได้รับการตอบสนองจากหน่วยงานใดๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ครั้งนี้เข้าใจได้ว่าเมื่อหัวโจกไม่อยู่ ข้าราชการที่รักความยุติธรรมจึงเริ่มเคลื่อนไหว ส่งข้อมูลมาให้

สุรเชษฐ์ กล่าวต่อไปว่า เมื่อนำข้อมูลข้อเสนอจากทั้ง 2 ฝ่ายมาเปรียบเทียบกัน จะเห็นได้ถึงข้อเสนอของบีทีเอสที่ดีกว่า ซึ่งการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม จะแข่งกันที่ใครขอเงินอุดหนุนจากรัฐน้อยกว่าและคืนผลตอบแทนให้รัฐมากกว่า โดยโครงการนี้รัฐจะเป็นผู้ออกค่าก่อสร้างให้ทั้งหมด แต่บริษัทที่ประมูลจะต้องหารถมาเดินและจัดการเดินรถ

ทั้งนี้ หากติดตามความไม่ปกติในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม ของ นายสุรเชษฐ์ เดิมจะเน้นที่หลักฐานซองประมูลในปี 2563 จากฝั่งของฝ่ายบีทีเอสเท่านั้น ซึ่งอยู่ดี ๆ การประมูลปีนั้นก็ถูกล้ม และให้มีการประมูลใหม่ในปี 2565 โดยกำหนดเงื่อนไขใหม่เพื่อกีดกันบีทีเอสออกไม่ให้เข้าประมูลได้ ส่วนเอกสารที่ได้มาใหม่คือ ข้อเสนอของบีอีเอ็มในปี 2565 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบข้อเสนอกันแล้ว จะเห็นชัดเจนว่าส่วนต่างมีอยู่จริง โดย บีทีเอส มีข้อเสนอจะจ่ายคืนให้รัฐ 70,145 ล้านบาท ส่วน บีอีเอ็ม จะคืนให้เพียง 3,583 ล้านบาท มีส่วนที่ต่างกันมากถึง 68,613 ล้านบาท และเมื่อไปดูรายละเอียดที่ค่าก่อสร้างหรือองค์ประกอบต่าง ๆ ในการดำเนินโครงการ จะพบว่าแทบไม่ต่างกันเลย ผิดกับที่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. มักออกมาอ้างว่า ราคาต่างกัน เพราะจำเป็นต้องใช้เทคนิคชั้นสูงในการสร้างอุโมงค์ใต้ดิน ทำให้ต้องใช้งบประมาณมากขึ้น แต่รายละเอียดที่ปรากฏในเอกสารประมูลของทั้ง 2 บริษัท พบว่าแทบไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย

นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ส่วนต่างนี้แน่นอนว่าทั้งหมดจะอยู่ในกระเป๋าของบีอีเอ็ม แต่คำถามคือ บีอีเอ็ม จะเอาไปให้ใคร หรือให้พรรคการเมืองใดบ้างหรือไม่ และสิ่งที่ต้องจับตาให้ดีคือ จากวันนี้ไป คณะรัฐมนตรี ยังมีเวลาเหลืออีก 2 ครั้ง ที่จะอนุมัติเรื่องต่าง ๆ คือในการประชุม ครม. สัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า ต้องติดตามกันว่าจะมีการยัดเรื่องนี้เข้าไปหรือไม่ เพราะถึงแม้สื่อจะรายงานว่า นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ปฏิบัติหน้าที่แทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะชะลอเรื่องนี้ไว้ก่อน แต่ตนยังไม่เคยเห็นหนังสืออย่างเป็นทางการ หรือไม่เคยเห็นทางรัฐมนตรีออกมาแถลงข่าวให้ประชาชนได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำ ตนเชื่อว่าส่วนตัวท่าน คงไม่อยากเอาเข้า ครม. แต่ท่านอาจจะโดนกดดันจากสารพัดทิศทาง เพราะนี่คือผลประโยชน์มหาศาล

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark