ตำรวจแกะรอยโจรจับตัวประกันสาวนักธุรกิจชาวจีน เรียกค่าไถ่ จ.ชลบุรี

เช้านี้ที่หมอชิต - อีกเคสหนึ่งที่เกี่ยวกับการอุ้มรีดค่าไถ่ ที่จังหวัดชลบุรี นักธุรกิจชาวจีนร้องขอความช่วยเหลือ หลังภรรยาถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ชาวจีนอุ้มตัวไป ล่าสุด ตำรวจเชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ เชื่อขบวนการนี้มีมากกว่า 3 คน อยู่ระหว่างเร่งแกะรอยช่วยตัวประกัน

พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ จังหวัดชลบุรี สอบปากคำ นายหม่า นักธุรกิจชาวจีน อายุ 33 ปี ผ่านล่ามภาษาจีน เพื่อหาเบาะแส น.ส.ซาน ซึ่งเป็นภรรยาและพี่ชาย ถูกกลุ่มชาวจีนอุ้มตัวไปเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา ระหว่างให้ปากคำ นายหม่า มีอาการอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด และอุ้มลูกชายวัย 3 ขวบ ไว้ในอ้อมกอดตลอดเวลา

นายหม่า เล่าว่า เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2565 โดยเปิดธุรกิจร้านอาหาร ย่านพัทยาเหนือ ก่อนจะปิดตัวลงไม่นานมานี้ กระทั่งเมื่อวานนี้ น.ส.ซาน ซึ่งเป็นภรรยา พร้อมกับพี่ชาย ขับรถยนต์ นิสสัน เทอร่า สีดำ ออกจากบ้านพักไปส่งลูกชายวัย 3 ขวบ ที่โรงเรียน

ระหว่างนั้นมีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ปาดหน้ารถของ น.ส.ซาน และบังคับให้จอดรถ ก่อนคนร้ายกระโดดขึ้นรถ นางสาวซาน แล้วขับพาทั้งคนและรถหายไป จากนั้นคนร้ายใช้แอปพลิเคชัน วี แชท โทรศัพท์มาหา นายหม่า เรียกค่าไถ่เป็นเงินจำนวน 1 ล้านหยวน หรือ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 4.7 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัว ด้วยความเป็นห่วงภรรยาและพี่ชายที่ถูกจับตัวเป็นประกัน นายหม่า จึงได้โอนเงินผ่านกระเป๋าตังค์คริปโต เป็นสกุลเงินดิจิทัลจำนวน 200,000 หยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 970,000 บาท ก่อนจะเข้าแจ้งความกับตำรวจ

ล่าสุด ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้ก่อเหตุ ตั้งแต่หมู่บ้านผู้เสียหาย จนไปถึงโรงเรียนนานาชาติ ระยะทางรวมกันกว่า 3.2 กิโลเมตร โดยเน้นตรวจสอบกล้องถนนสายซอยพรประภานิมิตร 21 พบมีกล้องจับภาพช่วงเวลา 08.48 น. รถยนต์ของผู้เสียหายขับผ่าน และทิ้งระยะห่างไม่ถึง 1.20 นาที ก็มีรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ ของคนร้ายขับตามมา

จากนั้น กล้องอีกมุมหนึ่งจับภาพคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุปาดหน้า แล้วลักพาตัวผู้เสียหายไป โดยลักษณะของคนร้ายเป็นชาวจีน 2 คน สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ สวมถุงมือสีขาวทั้ง 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์สะกดรอยตามรถของผู้เสียหาย ก่อนจะลงมือก่อเหตุลักพาตัวไป

นอกจากนี้ ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรอยนิ้วมือแฝง พร้อมทั้งตรวจหาดีเอ็นเอของคนร้ายจากรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ และรถยนต์ของผู้เสียหายที่ถูกพบนำมาจอดทิ้งไว้เมื่อคืนวานนี้ พร้อมทั้งตรวจดีเอ็นเอ นายหม่า และผู้ต้องสงสัยด้วย เพื่อหาจุดเชื่อมโยงกับคนร้าย เพราะจากแนวทางการสอบสวนพบว่า ผู้เสียหายและกลุ่มผู้ก่อเหตุรู้จักกันเป็นอย่างดี ส่วนตัวประกันทั้ง 2 คน ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม เพราะคนร้ายขาดการติดต่อตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้

เบื้องต้น ตำรวจยังคงแกะรอยต่อเนื่อง เพื่อเร่งช่วยเหลือทั้ง 2 คน โดยเร็ว