ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ร้องผัว-เมีย หลอกยืม-เช่ารถยนต์ เชิดหนีนับ 100 คัน

เช้านี้ที่หมอชิต - กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวหน้า สภ.เมืองสงขลา จำนวนเกือบ 100 คน เพื่อเข้าแจ้งความจับคู่ผัวเมียที่ก่อเหตุหลอกยืมและหลอกเช่ารถยนต์ ก่อนเชิดหนีไปกว่า 100 คัน ซึ่งคาดว่า จะมีผู้เสียหายในพื้นที่จังหวัดอื่นๆอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่เชื่อ อาจทำเป็นขบวนการส่งออกนอกประเทศตามแนวชายแดน

ผู้เสียหายจำนวนมากร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าว หลังจากได้ถูก นายใหญ่ และ นางสาวนฤมล ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน ได้ก่อเหตุหลอกยืมและเช่ารถยนต์ก่อนเชิดหนีหาย แค่เฉพาะในพื้นที่จังหวัดสงขลามีจำนวนมากกว่า 100 คัน และผู้เสียหายได้รวมตัวทยอยเดินทางมาแจ้งความกับเจ้าหน้าทีตำรวจ สภ.เมืองสงขลา เพื่อให้เร่งติดตามจับกุมตัวมิจฉาชีพทั้ง 2 คน

ผู้เสียหายคนหนึ่งเล่าว่า รู้จักกับ นายใหญ่ นานแล้ว โดยเขาเสนอมาว่า รถยนต์ของตนจอดอยู่บ้านมา 4 ปีแล้ว สนใจอยากจะมีรายได้เสริมหรือไม่ ขอปล่อยให้เช่าได้ไหม ซึ่งตนก็ได้ตอบรับไป โดยช่วงที่ 4-5 วันแรก ก็มีการจ่ายเงิน แต่พอหลัง ๆ เริ่มมีการขอผลัดค่าเช่าไปเรื่อย ๆ จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อ นายใหญ่ ได้อีกเลย

ทีมข่าวได้สอบถามกับผู้เสียหายอีกคน บอกว่า นายใหญ่ มักจะทำแบบนี้กับคนที่รู้จักหรือคนที่สนิทด้วย และพยายามรบเร้าขอยืมรถจนกว่าจะได้ พอได้รถไปก็หายเข้ากลีบเมฆ

จากการตรวจสอบประวัติของ นายใหญ่ และภรรยา ทั้งคู่ได้เริ่มก่อเหตุครั้งแรก ช่วงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 จนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียหายแล้วกว่า 100 คัน โดยทั้งคู่จะหลอกผู้เสียหายที่รู้จักกัน ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร แต่จะเน้นผู้เสียหายที่มีรถยนต์ 2 คันขึ้นไป

นายใหญ่ จะออกอุบายว่า ประกอบอาชีพปล่อยรถเช่า สนใจจะนำรถมาหารายได้เสริมไหม หากใครหลงกลก็จะเอารถมาทันที โดย 2-3 วันแรก ก็จ่ายค่าเช่า แต่หลังจากนั้นก็หายไปพร้อมทั้งภรรยา และไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งคาดว่า ทั้งคู่ไม่เพียงแค่ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดสงขลาเท่านั้น แต่น่าจะมีผู้เสียหายจังหวัดอื่น ๆ ด้วย

ความคืบหน้าล่าสุด กลุ่มผู้เสียหายได้เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เพื่อยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ต่อ พลตำรวจตรี วรา เวชชาภินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เร่งดำเนินการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน โดยมี พันตำรวจเอก อลงกรณ์ ศิริสงคราม รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เป็นผู้รับหนังสือแทน

พันตำรวจเอก อลงกรณ์ เปิดเผยว่า การกระทำลักษณะนี้ อาจจะเป็นคดีฉ้อโกงประชาชน ซึ่งจะให้ทางผู้เสียหายไปร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรสงขลา ซึ่งเป็นสถานที่มีการส่งมอบรถกัน ส่วนทางสืบสวนจะสั่งการให้ติดตามรถยนต์เหล่านี้ว่า ไปอยู่ที่ไหนบ้าง และจะมีการออกหมายจับผู้ก่อเหตุให้เร็วที่สุด

โดยเชื่อว่า อาจมีขบวนการที่มากกว่า 2 คนนี้ และทั้งคู่อาจจะเป็นแค่นายหน้าในการรับรถ ส่งให้แก๊งมิจฉาชีพ ซึ่งต้องตรวจสอบว่า รถที่โดนหลอกไปถูกเอาไปจำนำ หรือถูกส่งออกนอกประเทศตามแนวชายแดนแล้ว

มีรายงานข่าวว่า หลังจากที่เรื่องนี้เป็นข่าว ทาง นายใหญ่ ได้พยายามติดต่อผู้เสียหาย เพื่อจะนำรถมาคืน โดยให้ทางผู้เสียหายหาเงิน 45,000-50,000 บาท มาไถ่รถคืน เนื่องจาก นายใหญ่ ได้แอบนำรถไปจำนำที่บ่อนการพนัน โดยนัดรับรถภายในป่า ล่าสุด มีรถที่ นายใหญ่ นำมาคืนแล้ว จำนวน 5 คัน และตัวของ นายใหญ่ ก็อยู่ระหว่างการหลบหนี

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark