รวบเพื่อนสนิทฆ่าชิงทองสาวเงินกู้ทิ้งแม่น้ำ อ้างโมโหคุยกับกิ๊ก จ.ชุมพร

เช้านี้ที่หมอชิต - พบศพสาวเงินกู้ถูกตีด้วยของแข็งและถูกแทงด้วยของมีดคม ก่อนนำทิ้งแม่น้ำ ตำรวจตามรวบเพื่อนสนิทไปสอบเค้นทั้งคืน สารภาพทำคนเดียวแต่ไม่ปริปากแรงจูงใจ แต่ทองคำในตัวผู้ตายหายไป 

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา นายจเร ขวัญราช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 ตำบลพะโต๊ะ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร แจ้งทางตำรวจ สภ.พะโต๊ะ ว่า มีชาวบ้านออกไปหาปลาในแม่น้ำพะโต๊ะ แล้วพบศพลอยเกยติดโขดหิน บริเวณบ้านตรังพัฒนา ตำรวจตรวจสอบพบศพเป็นเพศหญิง ลอยติดโขดหิน สภาพขึ้นอืด นอนคว่ำหน้า ไม่สวมเสื้อ ใส่แต่กางเกง เสียชีวิตอยู่ในน้ำ ต่อมาทราบชื่อ นางสาวชฎาทิพย์ อายุ 32 ปี พบบาดแผลบริเวณศีรษะ และตามแขน ลำตัว ทั่วร่างกายถูกตีด้วยของแข็ง ถูกฟันและแทง เป็นแผลฉกรรจ์ นับ 10 แผล

จากการสอบถามผู้ซึ่งรู้จักผู้ตายทราบว่า นางสาวชฎาทิพย์ ทำธุรกิจเกี่ยวกับเงินกู้ แต่หายไปตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.00 น. มีเพื่อนชื่อ สุ ขับรถมารับผู้ตายออกไปข้างนอก อ้างชวนไปทวงหนี้ที่ลูกหนี้รายหนึ่งก่อนขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ออกไป แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย จนกระทั่งมาพบเป็นศพดังกล่าว

ต่อมา ตำรวจชุดสอบสวน สภ.พะโต๊ะ เดินทางไปควบคุมตัว นางสาวสุ หรือ นางสาวบุญพา อายุ 36 ปี มาสอบเค้นข้ามคืน ก่อนสารภาพเป็นผู้ลงมือฆ่า นางสาวชฎาทิพย์ เพื่อนสนิทของตนเอง

เมื่อช่วงเช้าวานนี้ ตำรวจควบคุมตัว นางสาวบุญพา มาชี้จุดก่อเกตุที่บ้านเช่าของตนเอง ซึ่งใช้เป็นลวง นางสาวชฎาทิพย์ วางแผนมาอย่างรอบคอบ มาทำร้ายทุบตีและฟันจนแน่นิ่งและนำร่างขึ้นรถกระบะของตนเองแล้วขับรถออกมาจากบ้านเช่ามุ่งหน้ามายังสะพานบ้านตรังพัฒนา แล้วลากร่างของผู้ตายลงจากรถก่อนจะผลักร่างลอดราวสะพานเพื่อทิ้งศพ

ผู้ก่อเหตุสารภาพเพียงว่าลงมือเพียงคนเดียว แต่ไม่ปริปากสาเหตุใด ๆ จึงนำตัวไปสอบเค้นเพิ่มเติมก่อนจะยอมสารภาพว่า วันเกิดเหตุไปรับผู้ตาย และระหว่างทางได้แวะซื้อเบียร์จำนวน 2 ขวด มานั่งดื่มกินที่ห้องเช่าระหว่างนั้นพบว่าผู้ตายพูดคุยกับแฟนที่คบกันอย่างลับ ๆ (กิ๊ก) ด้วยความโมโหจึงได้ทะเลาะกัน จึงบันดาลโทสะจึงใช้ไม้ฟาดเข้าบริเวณศีรษะ 2 ครั้ง และใช้ผ้าห่มห่อมัดและตีซ้ำเพื่อไม่ให้มีเสียงดัง ป้องกันคนข้างบ้านได้ยิน ก่อนนำไปทิ้งที่แม่น้ำ

สัมภาษณ์ตำรวจ พันตำรวจเอก มนศักดิ์ ศรีสุวรรณ์ ผู้กำกับการ สภ.พะโต๊ะ ยืนยันว่า คำสารภาพยังสอดคล้องกับกล้องวงจรปิดที่ได้ แถมลูกชายผู้ก่อเหตุยอมเล่าเหตุการณ์ทุกอย่าง พร้อมทั้งยังชี้จุดเกิดเหตุ จุดทิ้งศพและอื่น ๆ จนนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว นอกจากนี้ทองทั้งหมดจำนวน 5 บาท เป็นสร้อยคอ 2 บาท สร้อยข้อมือ 3 บาท ผู้ก่อเหตุได้นำไปจำนำที่ร้านทองแห่งหนึ่งได้เงินจำนวนกว่า 1 แสนบาท และทางเจ้าหน้าที่ได้นำเงินไปไถ่ถอนกลับมาได้ทั้งหมด

พี่สาวผู้ก่อเหตุ นางสาวบุญมี  แสงสว่าง พี่สาวของผู้ก่อเหตุบอกว่ารู้สึกเสียใจกับการกระทำของน้องสาวอย่างมาก ไม่คาดคิดว่าน้องสาวจะก่อเหตุเช่นนี้ กับเพื่อนสนิทที่ไปมาหาสู่กันตลอด น้องสาวไม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีปัญหาผิดใจกับน้องรุ่งผู้เสียชีวิตมาก่อน ซึ่งตนเองเป็นห่วงมากที่สุดคือหลานวัย 14 ปี ที่น้องสาวก่อเหตุต่อหน้าลูกตัวเอง หลังจากนี้คงให้พ่อของเด็กมารับไปดูแลต่อ