ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

เมฆ รามา เครียดเล็กน้อยนอนคุกคืนแรก ยังปรับตัวได้

เจาะประเด็นข่าว 7HD - เมื่อคืนนี้เป็นคืนแรกที่เมฆ รามา กับพวกรวม 9 คน ต้องไปอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเป็นคืนแรก แน่นอนว่าต้องมีอาการเครียด วิตกกังวลเป็นปกติ ซึ่งทางเรือนจำได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลสภาพจิตใจ ขณะที่เพจเฟซบุ๊กที่ติดตามแฉพฤติการณ์เครือข่ายนี้ แนะนำภรรยาเมฆ รามา เกลี้ยกล่อมสามีรับสารภาพ

ข้อมูลนี้ได้รับการเปิดเผยจาก นายสิทธิ สุธีวงศ์ ในฐานะโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ กรณีตำรวจยื่นขอให้ฝากขังตัว นายรามา รัศมีรามา อายุ 37 ปี หรือ เมฆ รามา กับพวกรวม 9 คน ความผิดฐาน "ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันฯ และร่วมกันฟอกเงิน" ระหว่างการสอบสวนและศาลอนุญาตให้ฝากขังได้ ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ ก็ได้รับตัวผู้ต้องหามาควบคุมดูแลเมื่อวานนี้

ซึ่งตามรายงานของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พบว่า ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมในห้องแยกกักโรค แดน 2 ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งผู้ที่ถูกฝากขัง หรือนักโทษรายใหม่เมื่อมาถึง จะต้องถูกกักตัวเหมือน ๆ กัน เป็นเวลา 5 วัน และอยู่ในห้องกันชนอีก 5 วัน ก่อนย้ายเข้าไปในพื้นที่ชั้นใน โดยทุกคนจะถูกซักประวัติ พิมพ์มือ ถ่ายรูป และตรวจร่างกายโดยบุคลากรทางการแพทย์จากสถานพยาบาลเรือนจำ

เบื้องต้นพบว่า สุขภาพร่างกายปกติ แต่ก็มีอาการเครียดและวิตกกังวลเล็กน้อย ซึ่งได้ให้นักจิตวิทยาของเรือนจำ ไปดูแลด้านสภาพจิตใจแล้ว

ขณะที่ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ทั้งหมดให้ความร่วมมือ ปฏิบัติตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์เป็นอย่างดี รับประทานอาหารเย็นได้ มีการจับกลุ่มนั่งพูดคุยกันบ้าง โดยเฉพาะ เมฆ รามา ไม่ได้มีท่าทีปลีกวิเวก หรือเก็บตัวเงียบแต่อย่างใด ขณะที่บางส่วนก็เลือกนอนพักผ่อน เพราะในห้องกักโรคไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำเป็นพิเศษ ไม่พบความผิดปกติอื่น เช่น นอนไม่หลับ หรือ กระสับกระส่าย หรือร้องขอยารักษาโรค ทั้งนี้คาดว่าในวันจันทร์ที่ 3 เมษายน อาจมีญาติของผู้ต้องหามาเข้าเยี่ยม

ส่วนความเคลื่อนไหวในโซเชียล อย่างเพจ "รวบรวมผู้โดนโกง จาก FOREX 3D" และเพจเหยื่อ ต่างก็ยังคงติดตามข่าวการดำเนินคดีผู้ต้องหาเครือข่ายนี้ ไปพร้อม ๆ กับการแฉภาพต่าง ๆ ของคนที่ระบุตัวว่าเป็นเครือข่าย เป็นพนักงานคนสำคัญที่ตำรวจควรตามไปขยายผล

แต่ที่น่าสนใจคือข้อมูลที่ ทั้ง 2 เพจ ออกมาโพสต์ให้ความเห็นสอดคล้องกัน คือ พูดถึงภรรยาของ เมฆ รามา ว่าควรเกลี้ยกล่อมให้สามีตัดสินใจรับสารภาพ ซึ่งจะเป็นผลดีกว่ายืนกรานปฏิเสธ เพราะรู้มาว่าตำรวจมีข้อมูลคดีนี้ค่อนข้างแน่นหนา และยังมีข้อมูลสนับสนุนที่ DSI รวบรวมไว้อีกส่วนหนึ่งด้วย

ทีมข่าวได้สอบถามเรื่องความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของเพจฯ ในโซเชียล ไปสอบถามกับ พลตำรวจตรี วิวัฒน์ คำชำนาญ รองผู้บัญชาการ สอท. ก็บอกว่า ทางตำรวจมีชุดรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้อยู่แล้ว ซึ่งข้อมูลที่ได้มาต้องนำไปวิเคราะห์แยกแยะก่อนว่า เข้าข่ายความผิดในคดีไหน ข้อเท็จจริงตรวจสอบแล้วเป็นอย่างไร

จากนั้นจึงจะนำไปขยายผลดำเนินคดี ยืนยันว่าแม้การแฉต่าง ๆ จะดูเป็นประโยชน์ต่อแนวทางการสืบสวน แต่ตำรวจก็ไม่สามารถทำตามกระแสข่าวอย่างเดียวได้ จนกว่าจะมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark