ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ฝังเหยื่อหนุ่มคลั่งยา ลูกสาวเผยก่อนตายแม่อยากแต่งสวย จ.อุดรธานี

เช้านี้ที่หมอชิต - ญาติเศร้า ฝังศพเหยื่อหนุ่มคลั่งยา รอครบ 3 ปี ค่อยขุดศพมาเผาตามความเชื่อ ลูกสาวเผยก่อนตายแม่อยากย้อมผมแต่งตัวสวย ๆ

จากกรณีที่เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งในตำบลเชียงหวาง อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี ช่วงกลางดึกของวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุคือ นายปราวุฒิ อายุ 34 ปี ที่มีประวัติเป็นผู้ป่วยจิตเวช เพราะเสพยาเสพติดมานาน คืนนั้นเกิดอาการคลุ้มคลั่งควงมีดพร้าบุกเข้าไปฟันชาวบ้านชื่อ นางฐานิยา อายุ 57 ปี เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม จนเสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำข้างชักโครก

ก่อนที่หนุ่มคลั่งรายนี้จะกลับไปทุบทำลายข้าวของและกระจกหน้าต่างที่บ้านของตัวเอง ทำให้ถูกเศษกระจกที่แตกแทงเข้าบริเวณข้อศอกด้านขวา ตัดเส้นเลือดใหญ่ จนเสียเลือดมาก อาการสาหัส หลังถูกตำรวจปิดล้อมอยู่นานประมาณ 30 นาที หนุ่มคลั่งจึงเดินลงมาจากบ้านเพื่อขอมอบตัว ก่อนจะทรุดลง ตำรวจรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเพ็ญ แต่ปรากฏว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา เพราะเสียเลือดมากจนช็อกหมดสติ และหัวใจหยุดเต้น

เมื่อวานนี้ (4 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางมาที่ สภ.เพ็ญ จังหวัดอุดรธานี พบกับ พ.ต.ท.ยืนยง คำบอน สารวัตรสอบสวน สภ.เพ็ญ เพื่อสอบถามความคืบหน้าของรูปคดี เพราะ นางฐานิยา ผู้ตาย และ นายปราวุฒิ หนุ่มคลั่งผู้ก่อเหตุ ได้เสียชีวิตไปแล้วทั้งสองคน

ตรวจสอบบ้านผู้ก่อเหตุ พบมีดที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่บนบ้าน ด้ามมีดหัก และมีคราบเลือด นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์การเสพกัญชาและยาบ้า พร้อมด้วยยาบ้า จำนวน 3 เม็ด และกัญชาแห้งอยู่บนเขียงหน้าห้องครัวหลังบ้านด้วย จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนศพของผู้ก่อเหตุถูกส่งไปที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง จากผลเลือดพบสารเสพติดจากยาบ้าและกัญชา แม้ผู้ก่อเหตุจะเสียชีวิตไปแล้ว ทางคดีความก็ยังคงต้องแจ้งข้อหาบุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้าย และฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา เพื่อสรุปสำนวนคดี

ส่วนศพของ นางฐานิยา ผู้เสียชีวิต ถูกนำมาประกอบพิธีทางศาสนาที่ศาลาการเปรียญวัดแสงสว่าง ในหมู่บ้าน โดยมีญาติพี่น้องและชาวบ้านมาร่วมงานศพเป็นจำนวนมาก โดยหลังจากทำพิธีศพเสร็จก็ได้เคลื่อนศพไปฝัง หรือ เข้าเบ้า ที่ป่าช้าหลังสำนักสงฆ์ที่อยู่ห่างกันประมาณ 1.5 กิโลเมตร เมื่อฝังแล้วจะรอจนครบ 3 ปี จึงจะนำศพออกมาฌาปนกิจ ตามความเชื่อของชาวบ้าน เนื่องจากเป็นการตายผิดธรรมชาติ หรือ ตายโหง

นางสาวจินตหลา อายุ 42 ปี ลูกเลี้ยงผู้ตาย เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าผู้ตายจะไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของตนเอง แต่ก็เคารพรักเหมือนแม่บังเกิดเกล้า เพราะแม่เป็นคนนิสัยดี ก่อนเกิดเหตุตอนเช้าแม่บอกว่าอยากย้อมผม แต่งตัวสวย ๆ ตั้งใจจะทำให้แม่ แต่พอตกค่ำมาแม่ก็มาถูกฆ่าเสียแล้ว อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง และสร้างความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนให้มากกว่านี้ อยากให้ดูแลเรื่องยาเสพติดให้มากกว่านี้ เพราะช่วงเกิดเหตุยังไม่ค่ำมาก ก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น

ส่วนการฝังศพนี้ก็เป็นความเชื่อมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ว่าถ้ามีการตายโหงต้องไม่นำศพเข้าบ้าน ให้ฝังเอาไว้ที่วัด 3 ปี ค่อยนำออกมาเผา ไม่เช่นนั้นแล้วจะเกิดการตายติดต่อกันแบบไม่จบไม่สิ้น

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark