สมชัย ชี้ กกต.ทำงานตั้งรับ หวั่นทำประชาชนเสียประโยชน์

เช้านี้ที่หมอชิต - ปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่ผ่านมามีหลายกรณีที่ กกต. สร้างความสับสนให้กับทั้งผู้สมัครและพี่น้องประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เราจึงไปพูดคุยเรื่องนี้กับ อาจารย์สมชัย ศรีสุทธิยากร นักวิชาการและอดีต กกต. ปัจจุบันสังกัดพรรคเสรีรวมไทย ถึงผลกระทบและข้อเสนอแนะต่อ กกต.ชุดปัจจุบัน เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นบนความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรมและตรวจสอบได้ ไปฟังความเห็นอดีต กกต. ที่มีต่อ กกต.ชุดนี้กัน...

อาจารย์สมชัย ยังกล่าวด้วยว่า การที่ กกต.ยกเหตุผลว่าการพิมพ์บัตรที่มีทั้งโลโก้และชื่อพรรคอาจทำให้บัตรเสียเพิ่มขึ้นนั้นไม่จริง เพราะหากดูจากสถิติบัตรเสียปี 62 เทียบกับปี 54 ที่มีทั้งโลโก้และชื่อพรรค จำนวนบัตรเสียมีใกล้เคียงกันที่ประมาณ 5 เปอร์เซ็นกว่า ๆ แต่การเข้าใจผิดเพราะเห็นแค่ตัวเลข แม้เป็นบัตรดีแต่กาผิดก็คือเสียเจตนารมณ์ของผู้เลือกตั้ง

อีกผลกระทบหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือการเลือกตั้งในต่างประเทศ ซึ่ง กกต.โยนให้เป็นภาระของกระทรวงการต่างประเทศว่าจะจัดการเลือกตั้งอย่างไรก็ได้ เท่าที่ทราบมา หลายประเทศยกเลิกการเลือกตั้งทางไปรษณีย์เพราะเป็นภาระของเขามากเกินไป การเลือกตั้งจึงต้องมาที่สถานทูตอย่างเดียว บางคนต้องเดินทางเป็นร้อยเป็นพันกิโลเพื่อมาเลือกตั้ง ก็อาจทำให้ประชาชนจำนวนมากเสียสิทธิ ดังนั้น จึงคิดว่า กกต.ไม่ควรยกให้เป็นภาระกระทรวงการต่างประเทศ แต่ควรปรึกษาหารือกันเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ประชาชน

สำหรับข้อเสนอในอนาคตถึง กกต.ชุดนี้ อาจารย์สมชัย กล่าวว่า สิ่งที่ยังอยู่ในวิสัยที่ กกต.ทำได้ คือการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตที่จะมีการลงทะเบียนถึงวันที่ 9 เมษายนเป็นวันสุดท้าย หลังจากนั้นกว่าจะถึงวันเลือกตั้งนอกเขตคือ 7 พฤษภาคม เท่ากับมีเวลาเกือบเดือนเต็ม จึงอยากให้ใส่ใจในการดูจำนวนคนที่ลงทะเบียนไว้มีเท่าไหร่ แล้วประเมินว่าจัดหน่วยพอหรือไม่ ไม่ใช่มีคนจะไปแสนคน แต่จัดไว้แค่ 10 คูหาแบบนี้ไม่พอ ซึ่งมีกรณีตัวอย่างเคยเกิดมาแล้วในการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่มาเลเซีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพี่น้องชายแดนใต้ที่ไปทำงานแล้วไปใช้สิทธิมากจนคูหาไม่พอ ต้องเอากล่องมาม่ามาเป็นหีบบัตรเลือกตั้ง ทั้งที่ตรงนี้เตรียมการได้

อีกกรณีคือที่บอกว่าไม่มีการนับคะแนนเรียลไทม์ แต่จะเอาผลการเลือกตั้งหน้าหน่วยไปโพสต์หลังวันเลือกตั้ง 5 วัน แบบนี้ประชาชนคงไม่สามารถไปตรวจได้ จึงอยากให้โพสต์แบบฟอร์มรายงานคะแนนคู่กับกระดานรายงานหน้าหน่วยนั้น ๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้น อีกสักนิด เราขอพาไปดูห้องทำงานของเลขาธิการ กกต.กันหน่อย เมื่อทางเพจสำนักงาน กกต. โพสต์ภาพนี้ ดูเหมือนทัวร์จะลงทันที หลายคนบอกว่าเป็นห้องทำงานที่ดูเหมือนจะไม่เข้ายุคสมัยเท่าไหร่ มีแต่กองแฟ้มกระดาษไม่มีคอมพิวเตอร์สักเครื่อง เพราะแบบนี้หรือเปล่างานถึงล่าช้า ตกยุค และทำให้การรายงานแบบเรียลไทม์เพื่อความโปร่งใสเกิดขึ้นไม่ได้เพราะ กกต.เองก็อาจจะไม่เข้าใจหรือไม่ถนัดในการใช้เทคโนโลยีดังที่เห็น นี่ก็เป็นเสียงวิจารณ์บางส่วนที่เข้ามาคอมเมนท์

ทั้งนี้ ก็อยากให้ กกต.ทำใจให้นิ่ง ๆ รับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ นำไปแก้ไข เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้ตอบสนองเจตนารมณ์ของประชาชนได้มากที่สุด เพราะทุกการเลือกตั้งคือโอกาสที่จะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ประเทศได้เสมอ