ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

คอลัมน์หมายเลข 7 : ส่องนโยบาย แจกเงินพรรคการเมือง กับงบประมาณชาติ

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ ชวนคุณผู้ชมสอดส่องนโยบายแจกเงินเพื่อโกยคะแนนเสียงของพรรคการเมือง ต้องใช้กันเท่าไหร่ คนไทยควรรู้เท่าทันอย่างไร ติดตามกับ คุณสุธาทิพย์ ผาสุข

เป็นคำประกาศของนายเศรษฐา ทวีสิน หนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี บัญชีพรรคเพื่อไทย ที่เรียกเสียงวิจารณ์ตามมาอย่างมาก เพราะจากนโยบายนี้ อาจต้องใช้เงินในคราวเดียวสูงถึง 5.5 แสนล้านบาท ตามด้วยการวาดภาพใหญ่ว่าจะก่อเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจมหภาค 6 เท่า แต่ในมุมมองของนักวิชาการเห็นต่าง ไม่เชื่อว่าการทุ่มเงินมหาศาลนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากเท่ากับที่พรรคเพื่อไทยคาดการณ์ แต่สิ่งที่จะตามมาคือภาระหนี้ของคนไทย

นอกจากพรรคเพื่อไทยแล้ว อีกหลายพรรคการเมืองที่หาเสียงอยู่ในขณะนี้ ก็มีนโยบายแจกเงิน ซึ่งมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป แต่บทสรุปสุดท้ายที่ไม่แตกต่างกัน นั่นคือเงินที่แจกไม่ใช่เงินของนักการเมือง แต่เป็นเงินภาษีของประชาชน และเมื่อคำนวณเงินต่ำสุดที่ต้องใช้ อย่างเช่น นโยบายเกี่ยวกับผู้สูงอายุ จะอยู่ที่ประมาณ 2 แสนล้านบาทต่อปี และสูงสุดที่ต้องใช้ มากกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี

เกิดคำถามว่า กกต.ซึ่งทำหน้าที่คุมกฎ กำกับดูแลนโยบายหาเสียงเหล่านี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 57 อย่างมีประสิทธิภาพหรือยัง เพราะแม้ กกต.จะขีดเส้นตายให้ทุกพรรคต้องส่งคำชี้แจงภายในวันที่ 18 เมษายนแล้ว แต่ทำแค่นี้อาจยังไม่เพียงพอหรือไม่

ปัจจุบันประเทศไทยมีหนี้สาธารณะอยู่ที่ 10.7 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 61% ของจีดีพี

ความเสี่ยงทางการคลังซึ่งเกี่ยวพันกับนโยบายต่าง ๆ ของพรรคการเมืองในอนาคตหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องตระหนัก ก่อนหย่อนบัตรลงคะแนน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark