พริตตีสาวโพสต์เป่าปรอทแตกหอบกระเช้าขอโทษตำรวจ
เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีพริตตีสาวโพสต์ตรวจแอลกอฮอล์เกินในด่านแต่ไม่ถูกจับ ล่าสุดหิ้วกระเช้าขอโทษตำรวจ ยอมรับว่าที่โพสต์อยากให้แฟนคลับเป็นห่วง ไม่คิดจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต ที่สำคัญคือไม่รู้ที่ว่าเครื่องที่ตัวเองเป่านั้นคือไฟฉาย ด้านรอง ผบช.น. เผยไม่เอาผิด เพราะอยากให้มีความสุขวันสงกรานต์ ดูไว้เป็นบทเรียน
พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีพริตตีสาวรายหนึ่งโพสต์ ขอบคุณตำรวจ ที่ตั้งด่านแล้วไม่จับ เมาแล้วเป่าจนปรอทจะแตกแต่ก็ปล่อยผ่าน จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงกลางดึกวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา ขณะตำรวจตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ บนถนนรามอินทรา (ขาเข้า) พริตตี้สาวเจ้าของโพสต์ ได้ขับรถเข้ามาที่ด่านแล้วเปิดกระจกด้านข้างคนขับ ขณะนั้นตำรวจพูดว่า "ขออนุญาตครับ" ก่อนจะส่องไฟฉายมาภายในรถยนต์ จากนั้นก็ขับออกไปใช้เวลาเพียง 5 นาที
ทั้งนี้ ด่านตรวจมีการตรวจคัดกรองรถยนต์ 3 ขั้นตอน โดยรถยนต์คันนี้อยู่ในขั้นตอนแรก ที่สังเกตจากท่าทางพิรุธของคนขับ ก่อนที่จะตรวจวัดเบื้องต้น หากพบมีแอลกอฮอล์ก็จะเข้าสู่การตรวจวัดในจุดที่ 2 ถึง 3 ทั้งนี้ยืนยันว่าตำรวจตรวจทุกคนอย่างเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติว่าเป็นบุคคลใด มีชื่อเสียงหรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้ยังไม่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ตามที่ผู้โพสต์กล่าวอ้างแต่อย่างใด
ด้าน นางสาวสโรชา (สงวนนามสกุล) หรือ เพชรพลอย อายุ 27 ปี ยอมรับว่า ดื่มแอลกอฮอล์ในงานมาเล็กน้อยแต่ไม่เมา ส่วนที่โพสต์ไปเป็นการขอบคุณเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นปกติที่จะโพสต์หลังเสร็จงาน แต่ครั้งนี้ได้โพสต์เกี่ยวกับเรื่องด่านตรวจไปด้วย โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา ซึ่งในขณะที่ขับรถผ่านด่านก็มีตำรวจเรียกตรวจจริง มีไฟฉายส่องเข้ามาในรถ โดยที่ไม่แน่ใจว่ามีเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ยื่นมาด้วยหรือไม่ จึงได้เป่าไปแต่ยืนยันว่าไม่ได้ถูกเรียกตรวจ พร้อมกับขอโทษทุกฝ่ายที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย
ทั้งนี้ ข้อความที่โพสต์ดังกล่าว เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 นำเข้าข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่เนื่องจากผู้โพสต์รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่มีเจตนา พร้อมเข้ามาขอโทษตำรวจแล้ว จึงไม่ติดใจเนื่องจากเป็นคดีที่สามารถยอมความกันได้ พร้อมเตือนประชาชนกรณีนี้ถือเป็นบทเรียน ในการโพสต์ข้อความผ่านทางออนไลน์ ขอให้คำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะตามมา
