สถานการณ์โควิด-19 เพิ่ม 2.5 เท่าหลังสงกรานต์
ข่าวสังคม 17 เมษายน 2566 - สนามข่าว 7 สี - เผยสถานการณ์โควิด-19 เพิ่มขึ้น 2.5 เท่าจากสัปดาห์ก่อนสงกรานต์ ขณะที่ผู้ติดเชื้อสัปดาห์นี้เข้ารักษาในโรงพยาบาล 435 คน
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า วันที่ 9-15 เมษายน 2566 พบผู้ป่วยรายใหม่เข้ารักษาในโรงพยาบาล 435 คน เฉลี่ยวันละ 62 คน โดยมีแนวโน้มพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 2.5 เท่าของสัปดาห์ก่อนหน้า ในขณะที่ผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการหนักปอดอักเสบ 30 คน ใส่ท่อช่วยหายใจ 19 คน เพิ่มขึ้นเช่นกัน ส่วนผู้เสียชีวิตรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มี 2 คน ตรวจสอบพบว่าได้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็มสุดท้ายนานเกิน 3 เดือนแล้ว
ขณะที่ นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุ จากรายงานผู้ป่วยโควิดที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลระยะนี้ ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง คนที่เคยฉีดวัคซีน หรือเคยติดเชื้อมาแล้ว ยังมีภูมิคุ้มกันป้องกันอาการหนักได้ แต่หลังสงกรานต์ขอให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตัวเอง 7 วัน หลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หากจำเป็นให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ และเมื่อเริ่มมีอาการป่วย เช่น ไข้ เจ็บคอ ไอ มีน้ำมูก ให้ตรวจ ATK ถ้าติดเชื้อไปรักษาสถานพยาบาลตามสิทธิการรักษาในโรงพยาบาล
ด้านศาสตราจารย์นายแพทย์อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภา ระบุ แนวโน้มหลังสงกรานต์ โควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 จะระบาดเพิ่มขึ้นในไทย และคาดว่าจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ เพราะสายพันธุ์ลูกผสมตัวใหม่นี้ แพร่กระจายเร็วกว่าโอมิครอน ถึง 2 เท่า
อาการโควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 จะมีไข้สูง ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส และมีรายงานอาการใหม่ เยื่อบุตาอักเสบ ตาแดง และมีผื่นคัน เพราะเชื้อแพร่กระจายเข้าไปยังเยื่อบุตา ถ้ามีมากยิ่งมีผลต่อดวงตาผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เยื่อบุตาอักเสบ ภูมิแพ้ ต้องระมัดระวังการติดเชื้อ
สำหรับคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว จะมีภูมิคุ้มกันช่วยให้อาการไม่รุนแรง ทางกระทรวงสาธารณสุข กำลังเร่งนำเข้าวัคซีนชุดใหม่ ที่ป้องกันโควิดสายพันธุ์ XBB.1.16 ได้มากขึ้น ส่วนคนกลุ่ม 608 ควรไปฉีดเข็มกระตุ้น
คุณหมอ ประเมินว่าโควิดสายพันธุ์ XBB น่าจะเป็นการกลายพันธุ์ในช่วงสุดท้าย ความรุนแรงของเชื้อกลายพันธุ์ค่อย ๆ ลดความรุนแรงลง ประกอบกับประชาชนทั่วไปเริ่มมีภูมิคุ้มกัน แต่กลุ่มที่น่าห่วงคือ ในคนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนโควิด-19 และไม่เคยเป็นโควิดมาก่อน
