ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

เลือกตั้ง 2566 : ผู้สมัคร รทสช. ถูกตัดสิทธิ เป็นเหตุให้ส่งสมัครไม่ครบทั่วประเทศ

ข่าวภาคค่ำ - กกต. เปิดให้ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป พร้อมย้ำการเลือกตั้งครั้งนี้ มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ใช้เลือกคน และเลือกพรรค

ผู้สมัคร รทสช. ถูกตัดสิทธิ เป็นเหตุให้ส่งสมัครไม่ครบทั่วประเทศ
หลังสำนักงาน กกต. ประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบแบ่งเขตทั่วประเทศ ที่ผ่านคุณสมบัติ พบว่ามีผู้สมัคร 71 คน ใน 31 จังหวัด ที่ขาดคุณสมบัติลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า เป็นผู้สมัคร 3 คน จากจังหวัดศรีสะเกษ สุพรรณบุรี และ อุบลราชธานี ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติส่งผู้สมัครไม่ครบทั้ง 400 เขต จึงเหลือเพียงพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวเท่านั้น ที่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งครบทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อ

บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เลือกคน เลือกพรรค
การเลือกตั้งครั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะได้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เพื่อใช้สิทธิเลือกตั้ง สส.แบบแบ่งเขต และ แบบบัญชีรายชื่อ เฟซบุ๊กของสำนักงาน กกต. ได้ลงข้อความประชาสัมพันธ์ บัตรเลือกตั้งทั้ง 2 ใบ โดยใบสีม่วง ที่จะมีหมายเลขผู้สมัคร และช่องสำหรับกากบาท แต่ไม่มีชื่อผู้สมัครและโลโก้พรรค ใช้สำหรับเลือก สส.แบบแบ่งเขต ส่วนใบสีเขียว จะมีโลโก้พรรคการเมือง และมีชื่อพรรค และมีช่องกากบาท ใช้สำหรับเลือก สส.แบบบัญชีรายชื่อ

เปิดให้ตรวจสอบสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 18 เม.ย.นี้
สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดกว่า 52 ล้านคนทั่วประเทศ สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป จากช่องทางต่าง ๆ ทั้ง ตรวจสอบด้วยตนเอง ณ ที่เลือกตั้ง ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ ที่ทำการเขต ที่ทำการ อบต. สำนักงานเทศบาล และ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน หรือ ตรวจสอบรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ของสำนักบริหารการทะเบียน และแอปพลิเคชัน Smart Vote ตลอด 24 ชั่วโมง หรือตรวจสอบได้จากหนังสือแจ้งเจ้าบ้าน

ทั้งนี้ หากไม่พบชื่อ หรือมีชื่อผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งปรากฏอยู่ในบัญชีรายชื่อ ให้ยื่นแบบคำร้องแจ้งเพิ่มชื่อ หรือถอนชื่อ ต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นทันที

เกาะติดทุกความเคลื่อนไหว เลือกตั้ง 66 #วาระคนไทย ได้ที่ www.ch7.com/election2566

ช่องทางโซเชียลมีเดีย
Facebook : www.facebook.com/Ch7HDNews
Twitter : www.twitter.com/Ch7HD
IG : www.instagram.com/ch7hd_news
TikTok : www.tiktok.com/@ch7hd_news
Youtube : www.bit.ly/youtubech7hd

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark