คอลัมน์หมายเลข 7 : เจาะขบวนการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน ทำรัฐสูญเสียรายได้

คอลัมน์หมายเลข 7 ติดตามขบวนการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยได้รับความเสียหาย สูญเสียรายได้จำนวนไม่น้อย ติดตามกับคุณมะลิ แซ่ฉิ่น

น้ำมัน B-0 หลายหมื่นลิตร อยู่ในถังดัดแปลงบนเรือประมงที่จอดลอยลำอยู่กลางทะเลที่เห็นอยู่นี้ เป็นน้ำมันที่กำลังจะถูกขนถ่ายมาขายให้กับคนบนฝั่ง เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมแปรรูปไม้ เกษตรกรรม รวมไปถึงปั๊มน้ำมันขนาดเล็ก และเรือประมงด้วยกัน

ต้นทางของน้ำมันเหล่านี้ เป็นน้ำมันที่ถูกขโมยมา และบางส่วนขนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งถูกกว่าประเทศไทยถึงลิตรละ 17 บาท โดยอาศัยผ่านมาทางเรือขนถ่ายน้ำมันจากคลังไปกลางทะเล เรือสินค้า และเรือที่ใช้ในการขนส่งจากแท่นขุดเจาะเข้ามาที่ชายฝั่ง เพื่อขายตัดราคา

การขายตัดราคา โดยใช้น้ำมันเถื่อนที่ขนในลักษณะกองทัพมดแบบนี้ จึงทำให้ผู้ประกอบการที่จ่ายภาษีให้แก่รัฐได้รับความเดือดร้อนจากส่วนต่างที่ถูกเฉลี่ยออกไป โดยจากข้อมูลพบว่า ราคาที่รับซื้อขายกันกลางทะเลจะอยู่ที่ลิตรละ 27 บาท เมื่อขนมาขายบนฝั่ง ก็จะบวกเพิ่มไปอีก 5 บาท ซึ่งยังถูกกว่าบนฝั่งที่รัฐประกันราคาถึง 3 บาท

จากการตรวจสอบข้อมูล เฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่ามีกลุ่มลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนเบื้องต้น ประมาณ 9 กลุ่ม ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้แล้วบางส่วน

และหากดูจากตารางตัวเลขการจัดเก็บข้อมูลของศูนย์ปราบปรามน้ำมันเถื่อน ปี 2566 น่าสนใจว่าในแต่ละเดือน ยอดการจับกุมสูงกว่าปี 2565 กว่าเท่าตัว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงรายได้จากการจัดเก็บภาษีของประเทศที่ต้องสูญเสียไปหลายสิบล้านบาท

มีข้อสังเกตว่าเบื้องหลังของขบวนการนี้จะมีเจ้าหน้าที่ หน่วยงานราชการใด ให้ความร่วมมือ แกล้งหลับหูหลับตาปล่อยให้การลักทรัพย์น้ำมันนายจ้างมาขายเกลื่อนตลาด ตัดราคาคนที่ต้องเสียภาษีให้แก่รัฐเพื่อพัฒนาประเทศด้วยหรือไม่ เพราะจากหลายเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาหลายครั้ง แสดงให้เห็นว่า กลโกงที่สำเร็จราบรื่น ล้วนมีเจ้าหน้าที่รัฐช่วยปกปิด แลกกับเงินส่วนต่าง