แอม ไซยาไนด์ เฟรนด์ลีไม่มีปัญหาอยู่เรือนจำ

ข่าวอาชญากรรม 30 เมษายน 2566 - สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - "แอม สรารัตน์" หรือที่โซเชียลเรียกอีกชื่อคือ "แอม ไซยาไนด์" ที่ถูกคุมตัวอยู่ใน ทัณฑสถานหญิงกลาง ซึ่งเป็นการฝากขังระหว่างการดำเนินคดี ช่วงแรก ๆ มีข่าวว่าเจ้าตัวมีอาการเครียด ป่วยเป็นความดันจนต้องเข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่ล่าสุด 3 วันผ่านไป ตรวจสอบดูอีกที เหมือนจะไม่มีปัญหานี้แล้ว

แอม ไซยาไนด์ เฟรนด์ลีไม่มีปัญหาอยู่เรือนจำ
เรื่องนี้ได้รับการยืนยันจาก นางสาวโศรยา ฤทธิ์อร่าม ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง เปิดเผยว่า นางสรารัตน์ หรือแอม ผู้ต้องหาคดีลอบวางยาพิษฆ่าผู้อื่นฯ และลักทรัพย์ ปัจจุบันยังคงอยู่ในห้องกักโรค แม้ว่าคืนแรกจะมีความดันสูง แต่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ได้จ่ายยารักษาอาการ จนทุเลาลง และจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่พบปัญหาเรื่องความดันอีก จากการเฝ้าสังเกตการณ์ตลอด 3 วัน พบว่ามีการปรับตัวได้ดี มีความเฟรนด์ลี่ พยายามชวนผู้ต้องขังอื่น ๆ ในห้องกักโรคพูดคุย และไม่ได้มีการปลีกวิเวกหรือเก็บตัว ไม่ได้รับรายงานเรื่องซึมเศร้าหรือการร้องไห้ฟูมฟายแต่อย่างใด

ส่วนที่ "แอม" ตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน จากการตรวจชีพจร พบว่าเด็กในครรภ์ก็ยังปกติดี ซึ่งทางเรือนจำมีแผนการดูแลกรณีนักโทษที่ตั้งครรภ์อยู่แล้ว เช่น การอ่านนิทานให้ฟัง เปิดเพลงบรรเลงเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ การเรียนโยคะ ฝึกการเลี้ยงบุตร และเมื่อเด็กคลอดจะมีห้องที่มีพี่เลี้ยงช่วยดูแล และจะให้แม่ลูกได้นอนด้วยกันในช่วงกลางคืน แต่หากต้องอยู่ในเรือนจำนานกว่านั้น ก็จำเป็นต้องให้ ญาติ หรือครอบครัว มารับเด็กออกไปเลี้ยงดูภายนอก หรือส่งไปสถานที่รับดูแลเลี้ยงเด็ก เพราะไม่สามารถให้เด็กอยู่ในเรือนจำจนถึงอายุ 1 ขวบได้ เนื่องจากเด็กอาจจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้

ส่วนความคืบหน้าทางคดี นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อคดีนี้ ก็นำหลักฐานไปเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับ นางสาวก้อย ผู้เสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับคดี "แอม ไซยาไนด์" โดยบอกว่าเป็นการเข้าให้ข้อมูลที่มาที่ไปเกี่ยวเหตุการณ์การเสียชีวิต โดยมีหลักฐานภาพวงจรปิดมาให้ตำรวจพิจารณา รวมถึงไทม์ไลน์เหตุการณ์ พร้อมกับยืนยันว่าขณะนี้มีผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับ "แอม" แค่ 13 ราย และรอดชีวิต 1 ราย กระแสข่าวที่บอกว่ามีผู้เกี่ยวข้องถึง 20 คน เป็นเพียงคำบอกเล่า และในสัปดาห์หน้า จะมีการให้ข้อมูลผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 2 ราย ให้กับ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำไปพิจารณา

ด้าน พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม บอกว่า วันนี้จะเชิญบุคลากรทางการแพทย์มาให้ข้อมูล ตามที่มีข้อมูลว่าเป็นคนที่เคยให้คำปรึกษา "แอม" เกี่ยวกับอาการหัวใจล้มเหลวว่ามีอาการอย่างไร ส่วนครอบครัวผู้เสียชีวิตพบว่ามีผู้ร้องเรียนเข้ามาถึง 18 คน ในจำนวนนี้สืบสวนพบว่ามี 14 คน ที่สามารถนำไปประกอบสำนวนคดีได้ ที่เหลือยังอยู่ระหว่างการหาพยานหลักฐานเพิ่ม เพื่อดูว่าเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายด้วยหรือไม่ ยืนยันว่าแนวทางการสืบสวนเป็นไปในทิศทางที่ดี และมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง

แอม เจออีกหมายจับฆ่าผู้อื่นฯ กรณี เจ๊น้อยผัก
ล่าสุดมีรายงานว่า ศาลจังหวัดสมุทรสาคร ได้อนุมัติออกหมายจับ "แอม ไซยาไนด์" เพิ่มอีกคดี ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากกรณี พันตำรวจโทศุภณัฐ พุ่มน้อย รอง ผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดสมุทรสาคร ขออนุมัติหมายจับ ในเคส "เจ๊น้อยผัก" ที่เสียชีวิตภายในแผงผักตลาดมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งผู้เสียชีวิตอยู่ในวงแชร์เดียวกับ แอม ซึ่งถือเป็นหมายจับที่ 3 ที่ นางสาวแอม ถูกออกหมายจับต่อจาก นางสาวก้อย และ สารวัตรปู

และล่าสุดเมื่อคืนนี้ มีรายงานข่าวว่าตำรวจกองปราบปราม เตรียมออกหมายจับ "แอม ไซยาไนด์" เพิ่มอีกในหลายท้องที่ ซึ่งนั่นเท่ากับว่าจะทำให้ " แอม สรารัตน์" มีหมายจับติดตัวรวม 10 หมายด้วยกัน

ด้าน ทนายความของแอม บอกว่า ตอนนี้ยังเดินหน้าทำคดีให้กับ แอม ต่อไป ไม่มีเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นหน้าที่ของทนายความที่ต้องไม่ทอดทิ้งลูกความ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการผิดมรรยาททนายความ และตนก็รับผิดชอบเพียงแค่คดีการเสียชีวิตของก้อยเพียงคดีเดียว ส่วนคดีอื่นยังไม่ได้ถูกว่าจ้าง ซึ่ง แอม อาจไปจ้างทนายความคนอื่นก็ได้ ขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกความ

ต่างประเทศ จับตาตามข่าว แอม ไซยาไนด์
สำนักข่าวต่างประเทศ ต่างให้ความสนใจกับคดีของ "แอม ไซยาไนด์" เป็นอย่างมาก จนถึงขั้นติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว

สำนักข่าวต่างประเทศ ให้ความสนใจกับคดีของ "แอม ไซยาไนด์" ซึ่งเป็นหญิงไทยต้องสงสัยที่ฆ่าคนใกล้ชิดและเพื่อน ๆ ด้วยสารไซยาไนด์ต่อเนื่องอย่างน้อยถึง 13 คน จนถึงขั้นติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด โดย สำนักข่าวบีบีซี ได้คอยรายงานความคืบหน้าของคดี และ บีบีซีไทย ก็ได้เผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่อง และสารพิษที่มีฤทธิ์ร้ายแรงที่ผู้ต้องสงสัยมักใช้ในคดีฆาตกรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ สำนักข่าวดิ อินดิเพนเดนท์ (The Independent) ของสหราชอาณาจักร แชนแนลนิวส์เอเชีย ( Channel News Asia) และซีบีเอส นิวส์ (CBS News) ของสหรัฐฯ ต่างลงข่าวเกี่ยวกับคดีดังของไทยในครั้งนี้อีกด้วย

ทั้งนี้ ต่างประเทศเชื่อว่า คดีของ "แอม ไซยาไนด์" นับเป็นหนึ่งในคดีฆาตกรรมที่โด่งดังซึ่งคล้ายกับคดีของฆาตกรต่อเนื่องในฉายา "อสรพิษ" (The Serpent) ของต่างประเทศ