พยาบาลสาว เพื่อนสนิท แอม ให้ปากคำตำรวจ

เจาะประเด็น 7HD - ตำรวจที่รับผิดชอบคดี "แอม ไซยาไนด์" ยังคงทำงานตามปกติ วันนี้เรียกพยานหลายปากคำที่เคยพูดคุยหรือใกล้ชิดกับ "แอม" มาให้ปากคำ หนึ่งในนั้นเป็นพยาบาลที่ "แอม" เคยขอปรึกษาเกี่ยวกับอาการของคนที่ตายด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว ขณะที่ตำรวจระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตมีในขณะนี้อยู่ที่ 14 ศพ รอดชีวิต 1 คน

ความคืบหน้าคดีของนางสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หลังก่อเหตุวางสารพิษไซยาไนด์จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ล่าสุดตำรวจกองบังคับการปราบปราม ได้เชิญพยานที่รู้จักหรือเคยใกล้ชิดกับแอม มาให้ปากคำ โดย 2 คน ที่เข้าพบในวันนี้ คนแรก ชื่อว่า "นก" เป็นพยาบาลประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านธนบุรี อีกคนที่เข้าไปด้วยก็คือ "จอย" อดีตผู้ร่วมวงแชร์กับแอม ทั้ง 2 คนเข้าไปให้ปากคำในฐานะพยาน เพื่อตอบข้อซักถามในประเด็นข้อสงสัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแอม และความสัมพันธ์ส่วนตัว โดยเฉพาะ "นก" พยาบาลสาวคนนี้แอมเคยขอปรึกษาเกี่ยวกับอาการของคนที่ตายด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว ซึ่งพยานปากนี้ไม่ขอให้ข้อมูลใด ๆ เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับผลกระทบจากงานที่ทำ และเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย

นอกจากนี้ยังเชิญจ่าทหาร ซึ่งเป็นคนที่ถูกหลอกให้รับจำนำรถ เชฟโรเลต แคปติวา ซึ่งเป็นรถที่นายแด้ อดีตสามีของแอม ใช้ก่อนเสียชีวิต โดยพบว่าหลังจากเสียชีวิต แอมและอดีตสามีคนที่เป็นตำรวจ เป็นคนขับรถคันดังกล่าวกลับมาในพื้นที่จังหวัดนครปฐม จากนั้นเปลี่ยนแปลงเอกสาร ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า เป็นการทำปลอมแปลง เพื่อสวมชื่อของแอม เป็นเจ้าของ นำไปปล่อยจำนำในออนไลน์หรือไม่

ส่วนอีกพื้นที่หนึ่งที่พบผู้เสียชีวิตเกี่ยวข้องกับแอม ด้วย วันนี้ (30 เม.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร เชิญดาบตำรวจนิติพล หรือ ดาบตาร์ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองบึงกาฬ สามี นางสาวหนิม ที่เสียชีวิตอย่างปริศนา เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 หลังแอมส่งยามาให้กิน ได้ไปให้ปากคำเพิ่มเติม

ดาบตำรวจนิติพล บอกว่า ก่อนที่ภรรยาจะเสียชีวิต ได้มีปัญหาเรื่องถูกโกงเงินจากการค้าขายน้ำมันพืชกับแอม โดยได้โอนเงินไปให้ 40,000 บาท แต่กลับไม่ได้รับของตามที่ตกลงกัน ส่วนคนที่โกงเป็นเพื่อนแอม ชื่อ "อ้อม" ซึ่งแอมแนะนำให้ภรรยารู้จัก และบอกว่ามีน้ำมันพืชราคาถูกขาย ทำให้ภรรยาหลงเชื่อ จึงคิดจะซื้อมาขาย

ดาบตำรวจนิติพล ยังบอกว่า เมื่อภรรยาเสียชีวิต แอมได้โทรศัพท์มาแสดงความเสียใจ พร้อมทั้งบอกว่า เรื่องเงินที่ถูกโกงไปนั้นจะให้ลูกน้องสามีที่เป็นตำรวจติดตามให้ จึงอยากให้พนักงานสอบสวนคดีนี้สืบสวนขยายผลด้วยว่าแอมกับคนชื่ออ้อม มีความเกี่ยวข้อง และเชื่อมโยงทางการเงินกันหรือไม่

ส่วนกรณีแม่เหยื่อจากจังหวัดกำแพงเพชร ร้องว่าบุตรสาวซึ่งย้ายมาอยู่ที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ตกเป็นเหยื่อของแอม จากแผนประทุษกรรมเดียวกัน ตอนนี้ตำรวจมีเบาะแสเพียงพอแล้ว ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (1 พ.ค.) แม่ของเหยื่อจะเข้ามาให้การที่สโมสรตำรวจ

คดีนี้มีการออกหมายจับแล้ว 3 คดี คดีนางสาวก้อย, คดีสารวัตรปู และคดีป้าน้อยผัก วันพรุ่งนี้ (1 พ.ค.) จะไปขอศาลออกหมายจับเพิ่มอีก 7 คดี หากศาลออกหมายจับก็จะทำให้แอม มีหมายจับรวม 10 คดี

แยกเป็นข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไต่ตรองไว้ก่อน จำนวน 8 หมาย อยู่ในพื้นที่ สภ.สามพราน จังหวัดนครปฐม, สภ.ลูกแก จังหวัดกาญจนบุรี, สภ.โพธาราม จังหวัดราชบุรี, สภ.เมืองสมุทรสาคร, สภ.นครปฐม, สภ.เมืองกาญจนบุรี และ สภ.ดอนตูม จังหวัดนครปฐม ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำนวน 1 หมาย พื้นที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี และข้อหาลักทรัพย์ 1 หมาย พื้นที่ สภ.บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี

ขณะที่ ตำรวจที่รับผิดชอบในคดีนี้ บอกว่า ยอดผู้เสียชีวิตมีในขณะนี้อยู่ที่ 14 ศพ รอดชีวิต 1 คน และกำลังรอพิสูจน์ผู้เสียชีวิตรายอื่น ๆ เพิ่มเติมว่ามีความเกี่ยวข้องหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่พบบุคคลอื่นที่ร่วมกระทำผิด รวมถึงตัวรองผู้กำกับการสอบสวน อดีตสามีของแอม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เรียกสอบปากคำไปแล้ว แต่เจ้าตัวปฏิเสธไม่ได้รู้เห็นถึงการกระทำผิด เพียงแต่อยู่กินด้วยกันเท่านั้น หากพบหลักฐานเพิ่มเติมก็อาจเรียกสอบปากคำอีกครั้ง

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า "แอม" อาจไม่ได้ลงมือก่อเหตุคนเดียว ซึ่งจากแผนประทุษกรรมของผู้ต้องหา พบว่า เจ้าตัวอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจของเหยื่อ ก่อนจะลวงไปทำบุญ ทานข้าว ดื่มกาแฟ แม้คดีนี้จะมีผู้เสียหายจำนวนมาก แต่ไม่จำเป็นต้องจะมีผู้ร่วมกระทำผิดหลายราย