จับสึกเจ้าสำนักสงฆ์เล่นชู้เมียชาวบ้าน จ.ชุมพร
เช้านี้ที่หมอชิต - ชาวบ้านบุกจับสึกเจ้าสำนักสงฆ์ จังหวัดชุมพร หลังมีพฤติกรรมแอบเล่นชู้กับภรรยาชาวบ้าน ขณะที่หญิงสาวสารภาพแอบคบกันมาเกือบปี เริ่มต้นจากการถูกชักชวนให้ทำพิธีสะเดาะเคราะห์จนได้เสียกัน ช่วงหลังคนเริ่มผิดสังเกต จึงออกมาเปิดเผยความจริง สุดท้ายเจอหลักฐานคลิปเสียงและแชทไลน์ ถึงกับคอตก ยอมสึกแต่โดยดี
บทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างเจ้าสำนักสงฆ์ กับหญิงสาวรายหนึ่ง ในทำนองตำหนิติเตียนที่นำเรื่องไปบอกคนอื่น และให้โกหกต่อไป เป็นหลักฐานสำคัญที่อดีตลูกศิษย์ลูกหา นำมาแฉพฤติกรรม หลังรู้ว่าหลานสาวของตนเองแอบได้เสียกับเจ้าสำนักสงฆ์แห่งนี้มาหลายครั้ง
ชาวบ้านและญาติโยม จำนวนมากจึงเดินทางมาที่สำนักสงฆ์เขางิ้ว ตำบลวังไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร หลังไม่พอใจเจ้าสำนักสงฆ์ มีพฤติกรรมลักลอบมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว ในหมู่บ้านมานานเกือบปี
โดยนางไพร (นามสมมุติ) วัย 72 ปี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยเคารพและศรัทธาเจ้าสำนักสงฆ์มานาน เพราะเห็นว่าเป็นพระนักพัฒนา มีชาวบ้านมาปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก
จนมาทราบภายหลังว่า นางสาวบี (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี หลานสาวแอบได้เสียกับเจ้าสำนักสงฆ์แห่งนี้ รู้สึกไม่สบายใจจึงออกมาเปิดเผย
ด้านเจ้าสำนักสงฆ์ ช่วงแรกยังให้การปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เป็นความจริง ไม่เคยออกนอกลู่แม้แต่ครั้งเดียว อยู่ในพระธรรมวินัยตลอด พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับนางสาวบี แต่อาจมีการหยอกล้อกันบ้าง
ทั้งนี้ นางสาวบี บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนเองและครอบครัว มาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้แทบทุกวันพระ จนสนิทกับเจ้าสำนักสงฆ์แบบที่สามารถเรียกใช้ได้ ต่อมาเดือนสิงหาคม 2565 เจ้าสำนักสงฆ์ได้เรียกมาตอน 00.00 น. บอกจะทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้ จึงเดินทางมาเพียงคนเดียว เมื่อมาถึงก็ถูกเรียกให้ขึ้นไปบนกุฎิ พร้อมให้นอน หลังจากนั้นก็เริ่มร่ายมนต์คาถาพร้อมใช้มือลูบไล้ตามตัว แม้พยายามปัดแต่เจ้าสำนักสงฆ์ก็บอกให้นิ่งจนทำพิธีเสร็จ
หลังจากนั้น เจ้าสำนักสงฆ์ก็เริ่มทักแช็ตมาคุย และเรียกให้มาหาอีก ซึ่งตนก็มาและถูกล่วงเกิน และถูกกระทำเรื่อยมา โดยพฤติกรรมของเจ้าสำนักสงฆ์จะแชทมานัดช่วง 00.00 น. จนช่วงหลัง ๆ มีคนเริ่มพูด ประกอบกับเจ้าสำนักสงฆ์น่าจะมีหญิงคนใหม่ ตนได้ปรึกษาญาติ ด้านเจ้าสำนักสงฆ์ ได้ขอร้องว่าอย่าให้หลักฐานใคร อย่าบอกใคร และให้ปฏิเสธทุกอย่างก่อนเรื่องจะถูกเปิดเผย
หลังคลิปเสียงรวมถึงแช็ตไลน์ ระหว่างเจ้าสำนักสงฆ์กับหญิงสาว ถูกนำมาเปิดเผย ทำให้เจ้าสำนักสงฆ์ต้องจำนนต่อหลักฐาน และยอมสึกในที่สุด
