ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

เจอแล้ว! ทรัพย์สิน 'ก้อย' บิ๊กโจ๊ก เผยรู้แล้วใครส่งพัสดุ

เช้านี้ที่หมอชิต - ตามหากันมาตั้งแต่แรก ๆ ที่เกิดคดีของก้อย เหยื่อแอม ไซยาไนด์ กับทรัพย์สินต่าง ๆ ที่เธอพกไปด้วยในวันที่เกิดเหตุ ล่าสุดพบแล้ว มีบุคคลปริศนาส่งมาให้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแอม ก่อนที่มูลนิธิวินวินจะพาพยานคนนี้เข้าพบบิ๊กโจ๊ก และตอนนี้รู้ตัวคนส่งแล้วว่าเป็นใคร

เจอแล้ว! ทรัพย์สิน 'ก้อย' บิ๊กโจ๊ก เผยรู้แล้วใครส่งพัสดุ
เรื่องพบทรัพย์สินของ ก้อย ศิริพร ขันวงษ์ นี้ ถูกเปิดเผยผ่านเพจเฟซบุ๊กของมูลนิธิวินวิน โดยได้โพสต์ภาพทรัพย์สินต่าง ๆ ซึ่งคาดว่าถูกส่งมาตามที่อยู่ตามบัตรประชาชนของพยาน เมื่อเปิดพัสดุดูพบว่ามีถุงขยะสีดำ ภายในเป็นกระเป๋าถือ โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าเล็กอีก 3 ใบ ซึ่งพัสดุถูกส่งมาตั้งแต่วันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทราบว่าใครเป็นคนส่ง โดยส่งมาจากอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี

ซึ่งในเวลาต่อมา นายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานในคดีของก้อยก็โพสต์ข้อความระบุว่า เหตุอาชญากรรม มักทิ้งร่องรอย พบกระเป๋าและโทรศัพท์มือถือของน้องก้อยแล้ว เหลือโทรศัพท์อีกเครื่อง และกระเป๋าอีกใบ ยังหาไม่เจอ ใครมีเบาะแสรีบแจ้งครับผม

ก่อนที่ช่วงเย็นวานนี้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะได้เข้าสอบหญิงอายุ 60 ปี พยานคนล่าสุดที่ได้รับพัสดุดังกล่าว โดยรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า พยานคนใหม่นี้เป็นเพื่อนสนิทของแอม แต่คนที่แอมขอพบในเรือนจำไม่ใช่พยานคนนี้ เบื้องต้นสอบปากคำพบว่าพยานไม่ทราบว่าเป็นพัสดุอะไร เพราะถูกส่งไปที่ที่พยานไม่ค่อยอยู่ นอกจากนี้ยังพบว่าพัสดุดังกล่าวถูกส่งหมุนเวียนไปก่อนหน้ามาแล้ว 3 จังหวัด โดย พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ย้ำว่า ทราบแล้วว่าใครให้การเท็จ ใครมีส่วนร่วม และใครนำของไปส่ง จะสรุปอีกครั้งว่าใครจะมีความผิดในช่วงไหนบ้าง

ขณะที่ หญิงอายุ 60 ปี เปิดเผยว่ารู้จักกับแอมมาตั้งแต่ปี 2563 เคยไปมาหาสู่กัน ร่วมลงทุนเล่นแชร์ ลงทุนปล่อยเงินกู้กับแอมอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เงินครบ และสาเหตุที่แอมมีที่อยู่ของตัวเองเพราะเคยให้บัตรประชาชนไปเช็กเครดิตบูโรว่าสามารถกู้ยืมมาลงทุนได้หรือไม่ ยอมรับว่าเคยกินดื่มกับแอม ตำรวจอยากได้หลักฐานเพิ่ม แต่ตนเองไม่มีเพราะเรื่องผ่านมานานแล้ว และเมื่อ 3 ปีก่อน แอมก็เคยมาปรึกษาเรื่องส่วนตัวบ้างอยู่บ้าง

ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดมีรายงานข่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ได้คุมตัวพยานมาสอบปากคำเพิ่มมาอีก 2 ปาก นั้นก็คือ น้องชายและน้องสะใภ้ของแอม ไซยาไนด์ โดยผู้สื่อข่าวแจ้งว่าแท้จริงแล้วผู้ส่งพัสดุคือน้องสะใภ้ของแอมนั้นเอง โดยแอมได้ให้เงินค่าส่งพัสดุไว้จำนวน 200 บาท แล้วให้ส่งไปยังบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา แต่บ้านหลังนั้นไม่มีใครพักอาศัยนั้นเอง

อย่าเรียก "ทนายแอมไซยาไนด์" ขู่ฟ้องกลับหากวิจารณ์ หลังแอมเปลี่ยนทนายใหม่
ก่อนหน้าดูเหมือนจะยืนยันอย่างหนักแน่นว่ารับทำคดีแอมทั้งหมด แต่จู่ ๆ ทนายธันย์พิชา ก็ได้มีการแจ้งผ่านสื่อว่า แอมเปลี่ยนทนายความใหม่แล้ว ตนเองไม่ได้ทำคดีให้แอมแล้ว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีอีกต่อไป หากมีใครวิพากษ์วิจารณ์เตรียมฟ้องกลับอีกด้วย

โดยเรื่องนี้ ทนายธันย์พิชา อดีตทนายความของ แอม ไซยาไนด์ ได้แจ้งผ่านสื่อช่องหนึ่งว่า ตัวเองไม่ทำคดีให้แอมแล้ว เพราะแอมมีการเปลี่ยนทนายใหม่ ซึ่งตอนแรกได้สอบถามกับไปในชั้นพนักงานสอบสวนว่าจะเปลี่ยนทนายหรือไม่ แอมยังคงยืนยันว่าไม่เปลี่ยน แต่พอแอมเข้าเรือนจำตนเองก็ได้ถามอีกครั้ง

ซึ่งแอมบอกเปลี่ยนทนาย จึงทำให้ตัวเองหมดหน้าที่ในการทำคดีให้แอม ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จึงแจ้งมาให้รับทราบโดยทั่วกัน นอกจากนี้ ทนายธันย์พิชา ยังย้ำอีกว่าหลังจากนี้ถ้าใครมาวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของตัวเอง จนทำให้เกิดความเสียหาย จะดำเนินการฟ้องกลับทุกคดี

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark