ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

สำนักงบฯ คาด ก.พ.67 เริ่มใช้งบประมาณรายจ่ายใหม่

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ปกติแล้ว วันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี จะเป็นการเริ่มปีงบประมาณใหม่ แต่ด้วยปีนี้เพิ่งมีการจัดการเลือกตั้ง ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ คาดว่า การเบิกจ่ายงบประมาณ ปี 2567 อาจจะล่าช้า

แม้พรรคก้าวไกล จะเป็นพรรคการเมืองที่กวาดคะแนนสูงสุดไปจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด แต่ระหว่างที่ยังไม่ได้ข้อยุติในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ซึ่งคาดว่าอาจไม่ทันวันที่ 1 ตุลาคมนี้

ซึ่งในหลักการเดิม ตามที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อนุมัติในหลักการเบิกจ่าย งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ไว้ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ในสถานะร่างพระราชบัญญัติ ซึ่งเป็นการจัดทำงบประมาณเป็นแบบขาดดุล คือ รายจ่ายสูงกว่ารายรับ เพื่อกันเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับใช้เป็นงบประมาณฉุกเฉิน หากเกิดวิกฤต เช่น เมื่อครั้งเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา โดยงบฯ ที่อนุมัติไว้แล้ว เป็นเงิน 3.35 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น งบประมาณที่เป็นรายจ่ายประจำ 2.49 ล้านล้านบาท, รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 3.37 หมื่นล้านบาท, รายจ่ายเพื่อการลงทุน 7.17 แสนล้านบาท และรายจ่ายชำระคืนเงินกู้ 1.17 แสนล้านบาท

ผู้สื่อข่าว 7HD คุณธัญนันท์ เหล่าบุรินทร์ ได้สอบถาม นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ทราบว่า ปกติแล้ว ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี จะต้องถูกนำเข้าสู่การพิจารณาตามกระบวนการ เพื่อให้ทันประกาศใช้ ในวันที่ 1 ตุลาคม แต่ปีนี้ การเลือกตั้งเพิ่งเสร็จสิ้น กระบวนการล่าช้าออกไป เพราะต้องรอพิจารณาการใช้งบฯ ตามนโยบายของรัฐบาลใหม่ด้วย

มาดูระยะเวลา หรือ ไทม์ไลน์ การจัดทำงบประมาณรายจ่าย ปี 2567 ตามที่สำนักงบประมาณ ได้วางแผนไว้ คือ เดือนพฤษภาคม 2566 จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เดือนกรกฎาคม ประกาศผลการเลือกตั้ง เดือนสิงหาคม ตั้งรัฐบาลและแถลงนโยบาย เพื่อที่เดือนกันยายน จะเริ่มพิจารณางบฯ รายจ่าย ต่อด้วยการเปิดรับฟังความคิดเห็นและเห็นชอบ ข้อเสนอร่างฯ ในเดือนตุลาคม จากนั้น พิมพ์ร่าง พ.ร.บ. นำเสนอคณะรัฐมนตรี เห็นชอบในเดือนพฤศจิกายน เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างฯ วาระที่ 1-3 ก่อนจะส่งให้ทางวุฒิสภา พิจารณาร่างฯ นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อประกาศใช้บังคับต่อไป

ซึ่งในทางปฏิบัติ เชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะสามารถเร่งดำเนินการได้ย่างรวดเร็วกว่าไทม์ไลน์ที่วางไว้ คาดว่า การเบิกจ่ายฯ จะเริ่มได้ในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า ขณะนี้ ทางสำนักงบฯ อยู่ระหว่างรอแผนนโยบายฉบับจริงของรัฐบาลใหม่ เพื่อจัดทำงบฯ รายจ่ายปี 2567 โดยแนวทางการปรับปรุง จะใช้การปรับเปลี่ยนรายละเอียดร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ

ระหว่างนี้ โครงการที่ดำเนินการอยู่ยังสามารถเบิกจ่ายงบฯ ได้ ภายใต้เพดานงบประมาณที่กำหนด เชื่อว่านโยบายของรัฐบาลใหม่จะเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

หวั่น เบิกจ่ายงบฯ ปี 67 ลากยาวถึงปีหน้า
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ภาคธุรกิจ เห็นว่า ยังไม่มีความชัดเจน ในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ สะท้อนได้จาก ทิศทางตลาดหุ้น ที่ยังไม่ได้ตอบสนองต่อผลการเลือกตั้ง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด เพราะหากยืดเยื้อถึงเดือนสิงหาคม อาจจะกระทบต่อกระบวนการพิจารณาและอนุมัติงบประมาณประจำปี 2567 และอาจทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณ กินเวลาถึงเดือนมีนาคมปีหน้า ส่วนขณะนี้กระบวนการจัดตั้งรัฐบาลก็เริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดี

สำหรับนโยบายของว่าที่พรรคแกนนำรัฐบาล เห็นว่า หลายประเด็นน่าสนใจ และจะได้เห็นทีมบริหารคนรุ่นใหม่ มีแนวคิดใหม่ ๆ ผสานกับบุคลากรที่มีประสบการณ์ทั้งในด้านการเมือง การบริหารธุรกิจ ของสองพรรคแกนนำ

ส่วนสิ่งที่ภาคเอกชนอยากเห็น หลังจากรัฐบาล คือ

1.การลดต้นทุนในภาคธุรกิจ และการลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ทั้งค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ

2.นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟู SME Startup ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและสินเชื่อ

3.นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน

4.เดินหน้ายกระดับโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะด้านดิจิทัล เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เกิดความสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark