เรืองไกร ยื่นหลักฐานเพิ่มปม พิธา ถือหุ้นสื่อ และ 8 พรรคร่วม MOU

เช้านี้ที่หมอชิต - เดินหน้าร้องอย่างต่อเนื่องกับนายเรืองไกร วานนี้ได้เข้ายื่นหลักฐานเพิ่มปมพิธาถือหุ้นสื่อ แถมยังร้องอีกกรณีการเซ็น MOU ของพรรคก้าวไกลและ 8 พรรคร่วม อาจขัดรัฐธรรมนูญว่าด้วย สส. ต้องไม่อยู่ในอาณัติมอบหมาย

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นำรายชื่อผู้ถือหุ้น 18 ปี ย้อนหลังและรายงานประจำปีงบกำไรขาดดุลมายื่นต่อทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพิ่มเติม เพื่อเป็นหลักฐานให้ กกต. พิจารณาว่าไอทีวีมียังเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ที่มีวัตถุประสงค์หลักเกี่ยวข้องกับการทำสื่อมวลชนต่าง ๆ ซึ่งมีรายได้ลดหลั่นกันลงมา การปรากฏชื่อและนามสกุลของนายพิธาโดยไม่มีห้อยท้ายนั้น อาจจะเป็นเรื่องที่ขัดต่อการดำรงค์ตำแหน่งทางการเมืองของนายพิธาเอง

นอกจากนี้ นายเรืองไกร ยังได้ร้อง กกต. เรื่องที่พรรคก้าวไกลในฐานะแก่นนำจัดตั้งรัฐบาลและพรรคร่วมอีก 8 พรรค ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง MOU ว่าอาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญที่ระบุไว้ว่า ส.ส.ต้องไม่อยู่ภายใต้อาณัติมอบหมาย ซึ่งการลงนามในนามหัวหน้าพรรค อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดได้ ซึ่งการออกมาร้องนี้ นายเรืองไกรกล่าวว่าตนเองได้รับหลักฐานต่าง ๆ มาจากนักการเมืองและตนเองได้กลั่นกรองแล้ว จึงนำมาร้องเรียน ยืนยันการร้องของตนนั้น เป็นไปตามข้อเท็จจริง เพราะหากให้การเท็จก็ติดคุก ไม่ใช่เรื่องสนุก และหากพบเจอว่าใครกระทำความผิดตนเองก็พร้อมที่จะยื่นเรื่องร้องเรียนทันที

โดยระหว่างสัมภาษณ์กับสื่อ จู่ ๆ นายวรัญชัย โชคชนะ ก็เดินมายืนถือป้ายประกบ โดยป้ายดังกล่าวมีระบุข้อความว่า ขอให้กำลังใจและสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี อย่าให้เหมือนกรณีนายสมัคร สุนทรเวช ทำกับข้าว จากนั้นจึงเดินประกบไปด้วยขณะเรืองไกร ยื่นเอกสารต่อ กกต.