คอลัมน์หมายเลข 7 : 2 นายตำรวจสกุลดังถูกโยงเอี่ยวเว็บฯ พนัน บัญชีม้า 2 หมื่นล้าน

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ ขยายต่อประเด็นบอสต้น-บอสตาล 2 พี่น้องประธานสโมสรฟุตบอล ที่เกี่ยวข้องกับเว็บฯ พนันออนไลน์ ซึ่งล่าสุด มีพบเส้นทางการเงิน เชื่อมโยงไปที่นายตำรวจสกุลดัง ติดตามเรื่องนี้กับคุณรัตนกรณ์ โต๊ะหมัด

สกุลใหญ่ ดังแค่ไหนทำผิดก็ต้องถูกลากเข้าตาราง คำยืนยันจาก ผอ.กองยาเสพติด DSI คดีนี้ขยายผลจากปี 63 หลังตำรวจ สภ.บ้านดู่ จังหวัดเชียงราย บุกทลายปาร์ตีมั่วยา ผ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โควิด-19 สามารถจับผู้ต้องหาได้ 22 คน พบเส้นเงินโยงนางชบา มีเงินหมุนเวียน 20,000 ล้านบาท

เส้นเงินของชบาโยงไปยังประธานสโมสรฟุตบอลชื่อดังของภาคเหนือ 2 พี่น้อง บอสต้น-บอสตาล ดีเอสไอโดยกองพิเศษภาคขณะนั้น พุ่งตรงไปที่ประเด็นยาเสพติด แต่ด้วยจำนวนยาที่พบแค่เล็กน้อย สุดท้ายอัยการชี้ขาดยกฟ้องผู้ต้องหา แนะให้ไปทำสำนวนใหม่ เป็นพนันออนไลน์และฟอกเงิน

แม้คดียาเสพติดจะลอยนวล ยกฟ้อง แต่กองคดียาเสพติด ดีเอสไอ ที่รับคดีมาทำใหม่ พบเส้นทางเชื่อมโยง ตั้งแต่เส้นเงินของนางชบา ที่โยงลูกน้องสโมสรฟุตบอล และที่สำคัญยังพบเชื่อมไปยัง ร้อยตำรวจเอกนายหนึ่ง จากคำให้การในขณะนั้นอ้างว่าเป็นเอเยนต์เว็บฯ พนัน กลายเป็นเชื้อเพลิงทางคดีให้สาวต่อ

นอกจาก ร้อยตำรวจเอกแล้ว ยังมีนายตำรวจสกุลดังยศ พันตำรวจตรี ลูกอดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 มีเส้นเงินเชื่อมโยงกับ ร้อยตำรวจเอก แม้เจ้าตัวจะอ้างว่าทำธุรกิจซื้อขายกัน แต่ที่มาของเงินจำนวนมากที่ถืออยู่ต้องมีที่มาที่ไป

เป็นที่น่าสงสัยว่า พันตำรวจตรี ที่เส้นเงินโยงไปถึงไม่เคยถูกเรียกสอบ ไม่ว่าจะในฐานะพยานหรือสถานะไหนตั้งแต่ต้น แม้ดีเอสไอจะแจงว่าขณะนั้นด้วยกรอบระยะเวลา 6 เดือนที่ถูกกำหนด อาจจะไม่ได้ขยายประเด็นอื่นเพิ่ม แต่ก็ยังสร้างความเคลือบแคลงใจในสังคม ว่าดีเอสไอก็มีหลายกองสามารถแบ่งงานกันได้หรือไม่

แม้ว่าวันนี้สองนายตำรวจ และประธานสโมสรฟุตบอล ยังให้การปฏิเสธ แต่ดีเอสไอมั่นใจจากหลักฐาน เส้นเงิน สามารถเอาผิดได้ โดยเฉพาะเรื่องภาษีที่ผู้ที่ถูกตั้งคำถามมีเงินหมุนเวียนเป็นพันล้าน แต่ไม่เคยจ่ายแม้แต่แดงเดียว

คดีนี้ยังมีกลิ่นที่ต้องตามเสาะ นอกจากตำรวจสองนายยังมีข้าราชการรายอื่นเอี่ยวอีกหรือไม่ มีข่าวว่ารู้แล้วจะหนาว เพราะใหญ่กว่า 2 ประธานสโมสรฟุตบอล