ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

งานบุญบั้งไฟร้อยเอ็ด เดือด! ไล่ยิงกันหน้าวัด เสียชีวิต 1 คน

ข่าวอาชญากรรม 5 มิถุนายน 2566 - สนามข่าว 7 สี - ข่าวต่อไปนี้เรียกได้ว่า ดุเดือด มีการไล่ยิงกันเหมือนในหนังเลยทีเดียว เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานบุญบั้งไฟ ในพื้นที่อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (4 มิ.ย.) หลังจากเสร็จสิ้นการจุดบั้งไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บสาหัส 2 คน

เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้บริเวณด้านหน้าวัดโพธิ์ศรีชัย ตำบลบุ่งเลิศ อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด จะเห็นกลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คนวิ่งหนีจากในวัดออกมาบนถนน โดยหนีคู่อริกลุ่มหนึ่งที่ตามไล่ยิงในระยะกระชั้นชิด ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายที่เกิดขึ้น ซึ่งจากภาพจะเห็นชายคนหนึ่งถูกยิงล้มลงบนพื้นถนน ขณะที่กำลังวิ่งหนีพร้อมกับเพื่อน โดยถูกยิงเข้าที่่หน้าท้องได้รับบาดเจ็บสาหัส มีพลเมืองที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันพาตัวส่งโรงพยาบาล และมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บอยู่ใกล้กันอีก 1 คน ส่วนอีกคนคือ นายพินิจ อุคำ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ถูกยิงที่หน้าอกข้างซ้าย บริเวณหน้ากำแพงวัดอาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะพาตัวส่งโรงพยาบาล เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเกือบ 18.00 น. ของเมื่อวานนี้ (4 มิ.ย.) โดยมีผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งได้นำคลิปนี้โพสต์ลงโซเชียล พร้อมกับเขียนข้อความระบุว่า "เหตุการณ์บุญบั้งไฟ #ยิงกัน #fyp ซึ่งภายในคลิปสามารถบันทึกภาพนาทีชีวิตขณะถูกยิงในครั้งนี้เอาไว้ได้

ตำรวจ สภ.เมยวดี สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ บอกว่า เหตุเกิดในงานประเพณีบุญบั้งไฟ หลังจากมีการจุดบั้งไฟเสร็จแล้ว โดยงานกำลังจะเลิก ปรากฏว่าจู่ ๆ กลุ่มของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นวัยรุ่นต่างหมู่บ้านจากตำบลเมยวดี ซึ่งเดินทางมาเที่ยวงานและมาเจอกับนายพินิจ ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นคู่อริเก่าที่อยู่ในตำบลบุ่งเลิศ และมาเที่ยวงานบุญบั้งไฟภายในวัดเช่นเดียวกัน และเมื่อเจอหน้ากันก็ชักปืนสั้น ไม่ทราบชนิด ที่พกมาด้วยไล่ยิงนายพินิจและกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกันแบบไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไร โดยยิงมาจากในวัดและวิ่งไล่กันออกมานอกถนน ซึ่งในจุดนี้พยานไม่สามารถบอกได้ว่าคู่อริยิงปืนออกมาทั้งหมดกี่นัด แต่ได้ยินเสียงปืนดังหลายครั้งด้วยกัน

ขณะที่ล่าสุด ตำรวจ สภ.เมยวดี อยู่ระหว่างรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ พร้อมตรวจสอบหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิดในมุมต่าง ๆ เพื่อสืบสวนติดตามตัวมือปืนที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณภาพจาก : TikTok Watcharaphon susarapho

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark