พิธา ระบุรีบโอนหุ้นเพราะเห็นพิรุธคืนชีพ ITV

เช้านี้ที่หมอชิต -  ประเด็นหุ้นสื่อ ITV ล่าสุดมีรายงานว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โอนหุ้นให้ทายาทอื่นไปแล้ว และถูกวิจารณ์ว่าโอนเพื่อหนีความผิด แต่เมื่อวานนี้  นายพิธาโพสต์ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการโอนหุ้นเพราะหลีกหนีความผิด แต่เห็นพิรุธในการคืนชีพความเป็นสื่อของ ITV

เมื่อวานนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊ก ชี้แจงในประเด็นหุ้น ITV 42,000 หุ้น ใจความว่า คลื่น ITV ที่ถูกบอกเลิกสัญญาเข้าร่วมงาน เมื่อ 7 มีนาคม 2550 ทำให้ไม่สามารถใช้คลื่นเพื่อประกอบกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์หรือกิจการโทรคมนาคมได้จนถึงปัจจุบัน จนมูลค่าหุ้นก็ต่ำลงจนไม่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ และต่อมาศาลแต่งตั้งให้ตนเองเป็นผู้จัดการมรดกของบิดาได้รับมอบหมายจากทายาท ให้ถือครองไว้แทนทายาทอื่น จนเข้ามาทำงานการเมือง ในพรรคอนาคตใหม่ก็ได้ชี้แจงเรื่องนี้ต่อ ป.ป.ช. อย่างบริสุทธิ์ใจ จนกลายเป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล และสิ้นสุดเลือกตั้ง 14 พ.ค. รับความไว้วางใจถึง 14 ล้านเสียง

จนมีข้อสังเกตว่า ปัจจุบันกลับมีความพยายามที่จะฟื้นคืนชีพให้ ITV กลายเป็นสื่อมวลชนเพื่อนำมาใช้เล่นงาน โดยนายพิธายังหยิบยกข้อมูลนำส่งงบของ ITV บัญชีปี 2561-2562 ที่ประเภทธุรกิจว่า กิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก และในบัญชีธุรกิจปี 2563-2564 ระบุประเภทธุรกิจว่า สื่อโทรทัศน์ โดยในส่วนสินค้าบริการระบุว่า ปัจจุบันไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากติดคดีความ

ขณะที่บัญชีในปี 2565 ระบุประเภทธุรกิจว่าสื่อโทรทัศน์ โดยในส่วนสินค้าบริการระบุว่า สื่อโฆษณาและผลตอบแทนจากการลงทุน โดยเนื้อหาหมายเหตุงบการเงินไม่ปรากฏรายได้จากกิจการสื่อโทรทัศน์และสื่อโฆษณาแต่อย่างใด และงบการเงินบัญชีปี 2565 มีการนำส่งเงินต่อ DBD ก่อนวันเลือกตั้ง 4 วัน คือ ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 นายพิธาชี้ให้เห็นว่า ในการจัดทำแบบนำส่งงบการเงินและข้อมูล ในหมายเหตุประกอบกลับงบการเงินมีความไม่สอดคล้องกัน เห็นพิรุธมีการเปลี่ยนแปลงข้อความที่ระบุในแบบนำส่งงบการเงินจากเดิม "กิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก" แก้เป็น "สื่อโทรทัศน์" ทั้งที่ ประกอบกิจการไม่ได้และล่าสุดแก้เป็น "สื่อโฆษณาและผลตอบแทนจากการลงทุน" ทั้งที่ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน รายได้จากดอกเบี้ยและการลงทุนในตราสารหนี้

รายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ITV เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 การตั้งคำถาม จากผู้ถือหุ้นบางรายว่าบริษัท ITV มีการดำเนินการเกี่ยวกับสื่อหรือไม่ โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการตั้งคำถาม ที่ขอให้ทุกท่านที่มีใจเป็นธรรมพิจารณาว่ามีความมุ่งหมายทางการเมืองหรือไม่ และให้ตอบตัวท่านเองว่านี่คือพฤติการณ์ความพยายามฟื้นคืนชีพ ITV กลับมาเป็นสื่อมวลชนใช่หรือไม่

หลังเห็นพิรุธหลายอย่าง นายพิธาตัดสินใจหารือกับทายาท ที่ได้รับถือครองหุ้นไว้แทน จนได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะมีการจัดแบ่งมรดกหุ้นดังกล่าว ให้ทายาทอื่นไปโดยสิ้นเชิง เพื่อป้องกันปัญหาจากกระบวนการฟื้นคืนชีพความเป็นสื่อมวลชนให้กับบริษัท ITV และการโอนหุ้นไม่ใช่เป็นการโอนเพราะหลีกหนีความผิดแต่อย่างใด 

นายพิธา แสดงความมั่นใจว่า ตนไม่มีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง และไม่มีลักษณะต้องห้ามในการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด โดยยืนยันความพร้อมอย่างเต็มที่ในการชี้แจง ต่อ กกต. ขอให้ทุกคนสบายใจและเดินหน้าเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ไปด้วยกัน