|
หมออารักษ์ เตือน! ปวดหัวบ่อย สัญญาณอันตรายจาก โรคเส้นเลือดขอดในสมอง อย่ามองข้าม
นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผอ.โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ได้ออกมาโพสต์เตือนสำหรับคนที่ชอบปวดหัวบ่อย อาจจะไม่ใช่ปวดหัวธรรมดา แต่เป็นสัญญาณเตือนจาก โรคเส้นเลือดขอดในสมอง โดยในโพสต์ระบุว่า
โรคเส้นเลือดขอดในสมอง
ผู้ป่วยชายอายุ60ปีเศษ ขณะนั่งพักผ่อนที่บ้าน ญาติบอกว่า บ่นปวดปวดศีรษะ ซึมลง ไม่รู้สึกตัว หายใจช้าลง หยุดหายใจเป็นช่วงๆ จึงรีบพาไปส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เข้าห้องฉุกเฉิน แพทย์เวรวินิจฉัยโรคเบื้องต้นเป็นอาการทางสมอง
ช่วยเหลือเบื้องต้น ใส่ท่อช่วยหายใจ
เพิ่มอ๊อกซิเจน เปิดเส้นเลือดให้สารน้ำ ใส่สายสวนปัสสาวะ งดน้ำ อาหาร ใส่เครื่องช่วยติดตามสัญญาณชีพ ปรับความดันให้คงที่ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยศาสตร์ทางสมอง ส่งเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ จากภาพรังสี เป็นการเอกซเรย์หลอดเลือดสมอง สร้างภาพ3มิติ จะเห็นกลุ่มเส้นเลือดขอดที่สมองส่วนหลัง และมีเส้นเลือดฝอยแตก เลือดซึมออกมา กระจายในเนื้อสมองส่วนหลัง
จึงเตรียมพร้อมผ่าตัดสมองฉุกเฉิน หากทิ้งไว้นานเลือดออกไม่หยุด ทำให้แรงดันในสมองเพิ่มสูงขึ้น สมองขาดเลือด กัอนเลือดคั่งในเนื้อสมอง ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็ว
นำผู้ป่วยเข้าห้องผ่าตัด ดมยาสลบ ผ่าตัดโดยการเปิดกะโหลกศีรษะ เปิดเยื่อหุ้มสมอง ผ่าตัดผ่านกล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง เปิดเนื้อสมองเข้าไปในจุดที่มีเลือดคั่ง เอาก้อนเลือดออก และให้เครื่องจี้ห้ามเลือด เอากลุ่มเส้นเลือดขอดออกทั้งหมด หลังจากนั้นจะมีการวางสายเพื่อระบายน้ำเหลือง น้ำใขสันหลังในโพรงสมองออก เพื่อลดแรงดันในสมอง เมื่อผ่าตัดเสร็จ จะปิดเฉพาะเยื่อหุ้มสมองและหนังศีรษะเอาไว้
การผ่าตัดประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ผู้ป่วยยังคงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจไปอีกระยะหนึ่ง รอสมองฟื้นตัวกลับมา
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า โรคเส้นเลือดขอดในสมองมักเจอในคนอายุน้อย มักแสดงอาการก่อนจนต้องมาพบแพทย์
แต่รายนี้แสดงอาการเมื่ออายุมากแล้ว
เมื่อถามประวัติย้อนหลัง พบว่ามีอาการแสดง วิงเวียน เดินเซ ปวดหัว เวลาออกแรงหนักๆ อากาศร้อน เครียด แต่ไม่ได้คิดว่าเป็นโรคร้ายแรง จึงไม่ได้ปรึกษาแพทย์
เป็นการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก นอนโรงพยาบาลนาน ใช้การดูแลรักษาสหวิชาชีพ แต่สามารถใช้สิทธ์บัตรทองได้
ซึ่งโรคดังกล่าวสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนจัดในช่วงนี้ควรเช็กอาการเป็นพิเศษ เพราะถือเป็นโรคที่อันตรายมองข้ามไม่ได้
BUGABOONEWS
ขอบคุณภาพ Arak Wongworachat
