ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

คอลัมน์หมายเลข 7 : ตรวจสอบ จนท.ออกโฉนดรุกล้ำลำรางสาธารณะ-ที่ดินชาวระยอง

ข่าวภาคค่ำ - ชาวบ้านจังหวัดระยอง ออกมาเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ตรวจสอบการทำงาน เจ้าพนักงานที่ดิน รวมถึงข้าราชการท้องถิ่นที่ร่วมกันออกโฉนดที่ดิน รุกล้ำลำรางสาธารณะและที่ดินชาวบ้าน คุณอนันตชัย วัชรเสถียร ลงพื้นที่ติดตามข้อเท็จจริง มีรายละเอียดในคอลัมน์หมายเลข 7

ความทุกข์ของชาวบ้านที่อัดอั้นมานาน ถูกระบายผ่านเสียง และสีหน้า จนบรรยากาศและสถานการณ์ในห้องประชุม ร้อนระอุ และเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี ชาวบ้าน ตำบลกะเฉด ตำบลสำนักทอง ตำบลแกลง ต้องเจอกับปัญหาเรื้อรังเรื่องที่ดิน ที่ไร้การดูแล และแก้ไข

พวกเขาบอกว่าสาเหตุเป็นเพราะ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดระยอง และข้าราชการท้องถิ่น ออกโฉนดที่ดิน ทับซ้อน 4 ลำรางสาธารณะ คือลำรางกะเฉด ลำรางจันดี ลำรางเงาะ และลำรางสะพานช้าง จนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ระยองเมื่อปี 65

ชาวบ้าน บอกว่า นอกจากลำรางสาธารณะที่เป็นข้อพิพาทแล้ว ที่ดินของพวกเขามากกว่า 100 ไร่ ก็ยังถูกออกโฉนดทับซ้อน จนต้องยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดระยอง เพื่อให้มีการรังวัดที่ดินใหม่ ซึ่งศาลมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดิน ดำเนินการรังวัดที่ดินใหม่ ตามแนวเขตเส้นสีแดงที่ศาลกำหนด แต่เวลาผ่านไป 5 ปี การรังวัดที่ดินก็ไม่เกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าเอกสารคำสั่งศาลสูญหายไป จนชาวบ้านต้องไปขอคัดคำสั่งมาใหม่ และพอถึงวันนัดรังวัดที่ดินใหม่อีกครั้ง นายช่างก็กลับแจ้งว่าดำเนินการไม่ได้เพราะไม่มีสัญญาณดาวเทียม

คอลัมน์หมายเลข 7 ตรวจสอบเอกสาร ระหว่างโฉนดที่ดิน และ หนังสือ นส.3 ก พบข้อมูลที่น่าสังเกต คือในโฉนดที่ดิน หมายเลข 482 ไล่เรียงลงมาจนถึง ที่ดินหมายเลข 424 ระบุว่า มีลำรางสาธารณะอยู่ติดที่ดิน

แต่เมื่อเปรียบเทียบกับโฉนดที่ดินฉบับใหม่ จะเห็นได้ว่าถูกวางทับลำรางสาธารณะอย่างชัดเจน 

เกิดคำถามว่า นายก อบต.กะเฉด ในฐานะผู้รับผิดชอบลำรางดังกล่าว รู้เห็นด้วยหรือไม่

มีคำชี้แจงจากสำนักงานที่ดินประจำจังหวัด เกี่ยวกับข้อสังเกตของเอกสารที่ทับลำรางสาธารณะ ซึ่งอธิบายกับคอลัมน์หมายเลข 7 ขณะลงพื้นที่ติดตามข้อเท็จจริง

จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการตรวจสอบ

ผลกระทบที่เกิดจากการออกโฉนดทับที่ดิน เป็นเรื่องราวปัญหาที่ยังคงแก้ไม่ตก เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย และไม่ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่ง มีสาเหตุมาจากการขยายตัวของเมือง และการที่เจ้าหน้าที่รัฐเพิกเฉย ใช้อำนาจเรียกรับผลประโยชน์กับนายทุน จนไม่คำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะตามมา ซึ่งน่าขบคิดว่าหากปล่อยไว้ต่อไป ในอนาคตลำรางระบายน้ำเล็ก ๆ แบบนี้ ก็อาจจะถูกบังคับให้สูญหายไปจากแผนที่ประเทศไทยหรือไม่

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark