ตร.รับดำเนินคดี ผู้การชลบุรี ตบทรัพย์ 140 ล้านบาท

เจาะประเด็นข่าว 7HD - หลังมีกระแสข่าวว่ามีตำรวจระดับผู้บังคับการจังหวัด ตบทรัพย์ผู้เสียหายเรียกเงิน 140 ล้านบาท แล้วก็มีวลีเด็ดที่แชร์กันในโซเชียลที่ว่า "เป้รักผู้การฯ เท่าไร เป้เขียนมา" โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบแล้วยืนยันว่า มีการแจ้งความจริง และได้สั่งให้ตำรวจที่เกี่ยวข้อง มาช่วยราชการแล้ว

ไล่เรียงแบบนี้ก่อน ข้อมูลที่เป็นกระแสข่าว มาจากบันทึกรายงานน่าสนใจของตำรวจ สภ.คูคต ที่นำเรียนผู้บังคับบัญชา โดยในรายงานระบุว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีผู้เสียหาย 6 คน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทั้งหมด 10 คน ไล่ตั้งแต่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เรียงไปจนถึงพลเรือน หรือ ประชาชนทั่วไปอีก 2 คน

โดยพฤติการณ์กระทำผิด ระบุว่า เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ผู้บังคับการนายดังกล่าว ได้สั่งให้มีการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาในพื้นที่เป้าหมาย 3 จุด ในกรุงเทพฯ 1 จุด และจังหวัดนนทบุรี 2 จุด จากนั้นก็ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.คันนายาว และพาตัวไปพบผู้บังคับการฯ ที่ห้องทำงาน มีการพูดคุยถึงเรื่องเส้นทางการเงิน การดำเนินคดี และเสนอทางออก ซึ่งหนึ่งในคำพูดบอกว่า "เป้รักผู้การฯ เท่าไร เป้เขียนมา" จากนั้นก็ได้พาไปเจอกับ นายต้น และ นายวีระ ซึ่ง 2 คนนี้ เป็นคนเจรจาต่อรองเรื่องการเคลียร์คดี ตอนแรกผู้เสียหายเสนอเคลียร์คดีด้วยเงิน 20 ล้านบาท แต่ทั้ง 2 คน ไม่ยอม บอกว่าต้องการเงิน 120 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงต่อรองอีกว่าได้แค่ 65 ล้านบาท ก่อนที่จะถูกตัดจบไป

จากนั้นผู้ต้องหาก็ถูกพาไปควบคุมตัวไว้ที่ สภ.บางละมุง ระหว่างรอให้ทำการส่งมอบเงิน จนผู้เสียหายติดต่อขอเงินจากญาติ และเพื่อนมาได้ ก็นัดหมายส่งมอบเงินกัน 2 ครั้ง ครั้งแรกนำเงิน 20 ล้านบาท ไปมอบให้ที่จุดนัดพบ ลานจอดรถสุดซอยหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ส่วนครั้งที่ 2 จ่ายเงินไปอีกกว่า 85 ล้านบาท นัดมอบกันที่หลังวัดแสงแก้วโพธิญาณ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ผู้เสียหายจึงได้รับการปล่อยตัว แต่เรื่องยังไม่จบ เพราะ นายต้น และ นายวีระ ไปนัดพบผู้เสียหายอีกรายให้นำเงินมามอบให้อีก 30 ล้านบาท และขอเป็นหุ้นส่วนเว็บฯ พนันด้วย และชนวนเหตุสุดท้าย ที่ทำให้เกิดการแจ้งความ ก็เพราะทั้งสองคนนี้ไปเรียกเงินจากหุ้นส่วนผู้เสียหายอีกหลายครั้ง ได้เงินไปอีกกว่า 50 ล้านบาท จนผู้เสียหายหารือกันว่าทนต่อไม่ไหว ตัดสินใจดำเนินคดี

พอเรื่องนี้กลายเป็นกระแสข่าว ก็ร้อนถึง พลตำรวจโท อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับคำสั่งให้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง เบื้องต้นยอมรับว่า มีผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีจริง และเรื่องนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็สั่งให้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะทำงานร่วมกับ ตำรวจภูธร ภาค 1 และ 2 รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันก็ยังมีคำสั่งย้ายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ซึ่งมีด้วยกัน 8 นาย สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันนี้ไป จนถึงกว่าคดีจะเสร็จสิ้น พร้อมกับสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัยด้วย

ขณะที่ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ได้ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ หรือ หมายเรียกผู้กระทำผิดในคดีนี้แล้ว หากได้รับหมายศาลเมื่อไรจะรีบดำเนินการทันที เบื้องต้นกำหนดจะเรียกทั้งหมดมาสอบสวนข้อเท็จจริงที่สโมสรตำรวจในวันพรุ่งนี้

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้สอบถามเรื่องนี้กับ พลตำรวจตรี กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ที่ถูกพาดพิงและแจ้งความดำเนินคดี ก็บอกว่าทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว หลังจากนี้จะทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงรายงานตรงถึง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณา

ทีมข่าว 7HD ยังได้ลงพื้นที่ไปสังเกตการณ์จุดเกิดเหตุตามข้อมูลในรายงานฉบับดังกล่าว โดยที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ย่านคลองสามวา จากการพูดคุยกับนิติบุคคลของหมู่บ้าน พบว่าเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ไม่สะดวกจะให้เข้าพบ แต่ในจุดนี้ก็ได้ข้อมูลมาว่าในวันเกิดเหตุ ตำรวจที่เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้ตัดสายภาพวงจรปิดของบ้านผู้ต้องหาด้วย

ส่วนอีก 2 จุด พื้นที่อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี พบว่าบ้านหลังหนึ่ง ไม่ตอบรับทีมข่าว ส่วนอีกหลังพบเพียงผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคประจำตัวพักอาศัยอยู่ในบ้านเท่านั้น