ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

2 ตำรวจ มอบตัวคดีเก็บส่วยสติกเกอร์ร้านกล้วยทอด จ.นนทบุรี

เช้านี้ที่หมอชิต - ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ ไปเรียกเก็บส่วยสติกเกอร์ จากแม่ค้าขายกล้วยทอดในจังหวัดนนทบุรี อ้างเป็นค่าดูแลแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุดตำรวจ 2 นาย ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ได้เข้ามอบตัวแล้ว อ้างไม่ได้ไปเก็บส่วย แต่ไปสืบหาเบาะแสเรื่องยาเสพติด ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ พบมีการเรียกเก็บส่วยสติกเกอร์แรงงานประเทศเพื่อนบ้าน

จากกรณีชายฉกรรจ์ 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจสันติบาล มาเรียกเก็บค่าส่วยสติกเกอร์รายเดือนรูปสิงโต เดือนละ 3,500 บาท จากแม่ค้ากล้วยทอดริมถนน ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี อ้างเพื่อเป็นค่าดูแลแรงงานต่างด้าว ทั้งที่เป็นแรงงานถูกกฎหมาย แต่ว่าถูกพี่ชายเจ้าของร้านบันทึกภาพไว้ และนำคลิปที่บันทึกไว้ รวมทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย โดยแม่ค้ากล้วยทอดมั่นใจว่า กลุ่มชายที่มาเรียกเก็บเงินน่าจะเป็นตำรวจ

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (21 มิ.ย.) ตำรวจยศ ส.ต.ท. 2 นาย ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กองร้อยควบคุมฝูงชน กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พร้อมทนายความ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา

โดยตำรวจทั้ง 2 นาย บอกว่า มามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้มีใครกดดันให้มามอบตัว ผู้บังคับบัญชาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และยืนยันว่าไม่ได้เรียกรับส่วยตามที่ถูกร้องเรียน

หลังสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมง พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจทั้ง 2 นาย และให้ย้ายไปช่วยราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี โดยตำรวจทั้ง 2 นาย ให้การว่าในวันเกิดเหตุ ได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับเรื่องยาเสพติด จึงไปตรวจสอบ ยืนยันว่าไปกัน 2 คน หลังจากนี้จะตรวจสอบเส้นทางการเงินของตำรวจทั้ง 2 นายด้วย ส่วนเรื่องส่วยสติกเกอร์ ยืนยันว่าไม่มีตำรวจไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ขณะที่ ส.ต.ท.จีรวัฒน์ และ ส.ต.อ.สังสรรค์ หลังถูกสอบปากคำ ก็เดินลงจากโรงพักด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ เพียงตอบสั้น ๆ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสติกเกอร์ส่วยสิงโต ก่อนจะขึ้นรถเดินทางออกไปจากโรงพัก

ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจสติกเกอร์ส่วยแรงงานประเทศเพื่อนบ้านในจังหวัดนนทบุรี พบว่ามีพ่อค้าขายปลาหมึกย่าง อายุประมาณ 20 ปี ยืนขายปลาหมึกย่างอยู่ใกล้กับร้านอาหารแห่งหนึ่ง สอบถามพบว่าเป็นคนเวียดนาม มาขายปลาหมึกย่างที่เมืองไทยได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว เมื่อถามว่ารู้หรือไม่ว่าทำแบบนี้ผิดกฎหมาย พ่อค้าปลาหมึกย่างตอบว่ารู้ เพราะเคยถูกจับมาแล้ว แต่ก็สามารถเคลียร์ได้ มีเพื่อนร่วมชาติที่อยู่ไทยมานานเป็นคนเคลียร์ให้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็นำสติกเกอร์เป็นรูปสัตว์ชนิดต่าง ๆ มาให้พกติดตัวเอาไว้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าได้จ่ายส่วยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสติกเกอร์แต่ละใบมีมูลค่าใบละ 500 บาท

เมื่อสอบถามว่าจ่ายเงินให้กับหน่วยงานไหนบ้าง พ่อค้าปลาหมึกย่าง บอกว่า ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่จำได้คือสติกเกอร์ 2 ใบ รูปเป็ดกับรูปไก่ที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลา เป็นของตำรวจหน่วยงานหนึ่ง ที่ต้องจ่ายรายเดือน เดือนละ 1,000 บาท

นอกจากนี้ยังต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่อีก 6 หน่วย รวมเงินที่ต้องจ่ายตกเดือนละประมาณ 4,000 บาท แลกกับการไม่ถูกจับส่งกลับประเทศ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเมื่อถูกตรวจค้นหรือจับกุม ก็ให้แสดงสติกเกอร์ให้ดู เพื่อให้รู้ว่าเป็นการจ่ายส่วยเรียบร้อยแล้ว

ต่อมามีพ่อค้าขายถั่วเป็นชาวต่างชาติอีกราย ซึ่งก็มีสติกเกอร์รูปเสือโคร่ง และสติกเกอร์รูปเสือดำ แปะไว้หลังโทรศัพท์มือถืออีก 2 ใบเช่นกัน หมายความว่า ชาวต่างชาติที่เข้ามาแบบผิดกฎหมาย จะต้องจ่ายส่วยทุกคน

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark