ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

ทลายแก๊งจีนดำ ลวงลงทุน-คอลเซ็นเตอร์ เงินหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้าน

เช้านี้ที่หมอชิต - ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จับผู้ต้องหาแก๊งจีนดำ ที่แอบอ้างสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์หลอกคนไปลงทุนทำธุรกิจคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จับผู้ต้องหาเครือข่ายหลอกลงทุน - คอลเซ็นเตอร์ ซึ่งคดีนี้ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ 15 หมายฯ และตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 11 ราย

ในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริต หรือ โดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน

โดยจับกุมได้ตั้งแต่ระดับหัวหน้า ที่ควบคุมสั่งการศูนย์ปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีแหล่งปฏิบัติการอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ รวมถึงคนทำหน้าที่รวบรวมบัญชี และรับจ้างเปิดบัญชีม้า และยังมีผู้ต้องหาที่อยู่ในระหว่างสืบสวนติดตามจับกุมตามหมายจับเพิ่มเติมอีก 5 ราย
จากการตรวจค้นในบ้านพัก ตำรวจได้ตรวจยึดทรัพย์สินหลายรายการ เช่น รถยนต์หรู 3 คัน, เงินสดกว่า 5 ล้านบาท, สร้อย-แหวนทองคำกว่า 30 รายการ, สมุดบัญชีธนาคาร, คอมพิวเตอร์ และของใช้อีกหลายรายการ

คดีนี้สืบเนื่องจากช่วงต้นปี 2566 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการร้องเรียนจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพ ได้นำชื่อสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ไปแอบอ้างด้วยการเปิดเว็บไซต์หลอกลวงประชาชนให้นำเงินมาลงทุนในหุ้นทองคำ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายหลงเชื่อ นำเงินไปร่วมลงทุนกับกลุ่มมิจฉาชีพเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่มกราคม-พฤษภาคม 2566 มีผู้เสียหายหลงเชื่อกว่า 2,000 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 500 ล้านบาท

ตำรวจสืบสวนจนพบว่ากลุ่มมิจฉาชีพมีพฤติกรรมหลอกลวงโดยใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ติดต่อเข้ามาพูดคุยกับผู้เสียหาย ตีสนิทด้วยการพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว ก่อนชักชวนไปร่วมลงทุนในหุ้นทองคำ ผ่านเว็บไซต์ Royal Gold เป็นเว็บไซต์ปลอม ลักษณะคล้ายเว็บไซต์เทรดหุ้น
โดยแอบอ้างว่าลงทุนในหุ้นทองคำที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยหลอกลงทุนช่วงแรก ก็จะให้ผลตอบแทนจนเหยื่อตายใจ เมื่อผลตอบแทนมากขึ้น ก็มีการเรียกเงินก้อนใหญ่จากเหยื่อ อ้างว่าเป็นค่าดำเนินการในการถอนเงิน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อโอนเงินก้อนใหญ่ให้ ก็จะปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารทั้งหมดทันที โดยพบว่าผู้ต้องหาแก๊งนี้มีเงินหมุนเวียนในบัญชีไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท

หนึ่งในผู้ต้องหาที่จัดหาและรวบรวมบัญชีม้า รับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างมาจากนายทุนชาวจีน ให้รวบรวมบัญชีม้าของคนไทย ได้รับค่าจ้างประมาณ 10,000 บาทต่อบัญชี สาเหตุที่รับจ้างทำงานแบบนี้ก็เพราะมีหนี้สินจากการเล่นพนัน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) แจ้งเตือนภัยมายังประชาชนว่าควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนให้ถี่ถ้วนก่อนลงทุนทุกครั้ง เพราะมิจฉาชีพมักอ้างหน่วยงาน หรือ สถาบันที่มีความน่าเชื่อถือ อย่าตัดสินใจลงทุนเพียงเพราะเห็นว่ารูปแบบเว็บไซต์นั้นดูน่าเชื่อถือ เพราะปัจจุบันมิจฉาชีพสามารถปลอมข้อมูลขึ้นมาได้ทั้งหมด

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark