สาวสุดช้ำ ถูกผัวแจ้งจับฐานยักยอกทรัพย์ จ.บุรีรัมย์

เช้านี้ที่หมอชิต - ใครเคยเจอแบบนี้บ้าง สาวบุรีรัมย์ถูกสามีกลับมาจากต่างประเทศ แจ้งตำรวจจับฐานยักยอกทรัพย์ เจ้าตัวเป็นงง สามีส่งเงินมาให้ทุกเดือน เดือนละ 30,000-40,000 บาท บอกเอาไปส่งงวดรถกับใช้จ่ายในครัวเรือน สุดท้ายกลับมาพร้อมเมียใหม่ แล้วมาแจ้งจับอยากได้เงินคืน 700,000 บาท แถมตำรวจบ้าจี้รับเป็นคดีด้วย

เมื่อวานนี้ นางสาวตรีรกา หรือน้อย แสนคนึง อายุ 36 ปี ชาวอำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ มาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว โดยระบุว่าเมื่อปี 2560 ตนได้แต่งงานกับนายนิกร หรือกร ทิพย์กระโทก อายุ 49 ปี คนในหมู่บ้านเดียวกัน มีการจัดงานแต่งเหมือนชาวบ้านทั่วไป สินสอดตอนนั้น 200,000 บาท ทองอีก 4 บาท แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส

เดือนมกราคม ปี 2561 สามีเดินทางไปทำงานที่ไต้หวัน โดยก่อนจะเดินทางไปต่างประเทศ ได้พากันไปดาวน์รถยี่ห้ออีซูซุมา 1 คัน หลังจากนั้นสามีได้ส่งเงินมาทุกเดือน เดือนละ 30,000-40,000 บาท บอกว่าเงินส่วนหนึ่งเอาไว้ส่งงวดรถเดือนละ 8,526 บาท ที่เหลือเก็บไว้ใช้จ่ายภายในครัวเรือน โดยระหว่างที่สามีทำงานอยู่ต่างประเทศ จะติดต่อกันทางเฟซบุ๊ก หรือวิดีโอคอลหากันเป็นประจำ

พอปี 2564 สามีเริ่มผิดปกติ บอกว่าจะไม่ส่งเงินให้แล้วนะ และบอกว่า "เราต่างคนต่างไปเถอะ" ต่อมามีญาติสามีมาเอารถกระบะคืนกลับไป เพราะรถเป็นชื่อของสามี ตนก็ให้ไป แล้วเลิกการติดต่อกันตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

นางสาวน้อย บอกว่า ตอนเดือนพฤศจิกายน 2565 ทราบข่าวว่าสามีกลับมาจากต่างประเทศพร้อมแฟนใหม่ ไม่เคยได้เห็นหน้าหรือพูดคุยกัน เพราะสามีไปอยู่บ้านแฟนใหม่ที่จังหวัดสกลนคร

วันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ตนกับพ่อกลับเป็นงง เพราะจู่ ๆ ได้รับหมายเรียกจาก ร.ต.อ การุณ แสงอรุณ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ชำนิ อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์ ว่าสามีแจ้งความกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์ จึงรีบไปพบตำรวจ จนกระทั่งมาทราบว่าสามีต้องการเงินที่ส่งมาให้ใช้ทุกเดือน รวม 37 ครั้ง เป็นเงิน 720,000 บาท เจอเข้ากับตัวแบบนี้ เธอทำอะไรไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่จากกันไปด้วยดี

นางสาวน้อย บอกว่า ตอนนี้ครอบครัวทำอะไรไม่ถูก ไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย ไม่รู้จะทำอย่างไรหลังจากนี้ จึงอยากจะให้ผู้ที่มีความรู้ด้านกฎหมายมาชี้แนะ เพราะไม่รู้จะหาเงินจากไหนไปคืนให้สามี และอยากจะถามสังคมว่า มีใครโดนในลักษณะนี้หรือไม่ ในใจอยากจะถามสามีว่าตนทำผิดอะไร ไม่เคยคิดนอกใจ ชาวบ้านรู้ดี แต่ทำไมต้องทำกันแบบนี้