ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

คอลัมน์หมายเลข 7 : คลี่ปมท่าเทียบเรือเอนกประสงค์ งบฯ 1,200 ล้านบาท 7 ปี ไม่ได้ใช้งาน

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ พาคุณผู้ชมไปติดตามโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือเอนกประสงค์ ที่ใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า 1,200 ล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่สามารถเปิดใช้งานได้ ทั้งที่ก่อสร้างเสร็จมาแล้วกว่า 7 ปี ติดตามเรื่องนี้กับ คุณอนันตชัย วัชรเสถียร

นี่คือภาพโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือเอนกประสงค์คลองใหญ่ จังหวัดตราด ที่มีกรมเจ้าท่าเป็นผู้เสนอโครงการและรับผิดชอบ ใช้งบประมาณกว่า 1,200 ล้านบาท เพื่อให้ที่นี่ เป็นท่าเทียบเรือที่ได้มาตรฐาน สะดวก ปลอดภัย สามารถรองรับเรือขนส่งสินค้า โดยเฉพาะจากประเทศกัมพูชา และเวียดนามตอนใต้ รวมไปถึงเรือท่องเที่ยว และเรือประมง พร้อมทั้งคาดการณ์ความคุ้มค่าของโครงการว่าจะสร้างรายได้สูงถึง 4,800 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ ระยะเวลาผ่านไปแล้วกว่า 7 ปี ก็ยังไม่สามารถเปิดใช้งานตามที่กล่าวมาได้

คอลัมน์หมายเลข 7 ตรวจสอบข้อมูล พบว่า สาเหตุที่ทำให้โครงการนี้ต้องสะดุดและเดินต่อไปไม่ได้ เพราะไม่มีแกนหลักที่จะบริหารจัดการโครงการ ซึ่งเดิมทีกำหนดให้กรมธนารักษ์เป็นผู้จัดหา โดยตามรายงานผลการศึกษามี 2 ทางเลือก คือ ให้ท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการ หรือให้สัมปทานแก่เอกชน แต่ที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนรับหน้าเสื่อดูแลโครงการมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท แห่งนี้

เรื่องนี้มีคำชี้แจงจากกรมเจ้าท่า บอกว่า ที่ผ่านมา ได้มีความพยายามที่จะหาผู้ลงทุนมาดำเนินการแล้วหลายครั้ง แต่ด้วยข้อจำกัดของโครงการที่มูลค่าก่อสร้างสูงกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 จึงยังไม่สามารถหาข้อยุติเรื่องผลประโยชน์ที่ลงตัวได้

จากคำอธิบายข้างต้น ทำให้เกิดคำถามว่า แล้วการปล่อยให้ท่าเทียบเรือทิ้งร้าง ไม่ใช้มานานกว่า 7 ปี เป็นการทำให้รัฐสูญเสียโอกาสสร้างรายได้หรือไม่

ปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้หลายฝ่ายต่างพยายามแก้ไขหาทางออก กระทั่งมีการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริการของประเทศ หรือ กบส. และที่ประชุมเห็นสมควรว่า ควรให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย เข้ามาบริหารจัดการแทน แต่ที่ผ่านมา ทางการท่าเรือฯ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตัดสินใจ ให้คำตอบเพียงว่ากำลังจัดทำการประชุมรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนถึงความคุ้มค่า อีกทั้งยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมหลายสิบล้านบาทที่ต้องจ่ายให้กับกรมธนารักษ์ ซึ่งมองว่าสูงเกินไป

สุดท้ายแล้วโครงการท่าเทียบเรือแห่งนี้ ก็ยังไม่มีใครการันตีได้ว่าใครจะเป็นผู้ที่เข้ามาบริหารดูแลและบริหารจัดการ แต่ที่ยืนยันได้แล้ว นั่นคือ ผลประโยชน์ของโครงการที่คาดการณ์ไว้ว่าจะสร้างรายได้กว่า 4,800 ล้านบาท แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถหารายได้เข้ารัฐได้เลยแม้แต่บาทเดียว

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark