ข่าวในหมวด ประเด็นเด็ด 7 สี

ประเด็นเด็ดเศรษฐกิจ : ส่งออกไทยส่อวิกฤต ยอดหดนาน 8 เดือน

ประเด็นเด็ด 7 สี - ภาคเอกชน หั่นเป้าส่งออกสินค้าไทยปีนี้เหลือ -2 ถึง 0% หลังสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก ติดตามในประเด็นเด็ดเศรษฐกิจ กับคุณธัญนันท์ เหล่าบุรินทร์

ตัวเลขส่งออกที่ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่อง เริ่มส่งสัญญาณผลกระทบชัดเจนแล้ว ว่ากันว่า ขณะนี้หลายโรงงานเริ่มปรับแผนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการปรับกะเข้างาน และปรับลดการจ่ายค่าล่วงเวลา หรือ OT ลง เพื่อประคับประคองบริษัท หวังว่าจะมีออร์เดอร์กลับเข้ามาบ้างในช่วงปลายปี

มาย้อนดูตัวเลขการส่งออกสินค้าไทยในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าตัวเลขทยอยปรับลดลงมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 แม้ว่าช่วงนั้นไทย และหลาย ๆ ประเทศ จะเปิดประเทศอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ด้วยสถานการณ์โลก โดยเฉพาะสัญญาณเศรษฐกิจโลกถดถอยเริ่มชัด ก็เลยทำให้ตัวเลขการส่งออกแทบไม่ขยับ อย่างเดือนตุลาคม 2565 ตัวเลขส่งออก ติดลบไปถึง 4.4% ด้วยมูลค่าการส่งออกกว่า 21,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นเดือนพฤศจิกายน ลบอีก 6% ตามด้วยเดือนธันวาคม ติดลบหนักสุด 14.6% เมื่อเข้าสู่เดือนมกราคม 2566 ยอดส่งออกติดลบ 4.5% ไล่มาเรื่อย ๆ จนกระทั่งติดลบต่อเนื่องมาเป็นเวลา 8 เดือน

ภาคเอกชน ถึงกับนั่งกันไม่ติด โดยที่ประชุม คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.ร่วมกันประเมินภาวะเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมองว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอลงมากขึ้น ขณะที่ภาคการผลิตยังคงหดตัวต่อเนื่อง ขณะที่ภาคบริการเริ่มเห็นสัญญาณชะลอลงในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก ทั้ง สหรัฐฯ, ยุโรป และญี่ปุ่น นอกจากนี้ ธนาคารกลางของประเทศหลักฝั่งตะวันตก มีแนวโน้มปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อในช่วงครึ่งปีหลัง ภาวะการเงินตึงตัวจากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อใหม่ จะยิ่งกดดันภาคธุรกิจและจำกัดการใช้จ่าย ส่วนเศรษฐกิจจีนก็มีแนวโน้มชะลอลงเช่นกัน ซึ่งแม้เศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มขยายตัวได้ จากภาคการท่องเที่ยว โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ จะยังคงเติบโตประมาณ 3-3.5% ตามกรอบเดิมที่เคยประเมินไว้ แต่ภาคการส่งออกนี่ซิ เมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สินค้าขายได้น้อยลงอย่างแน่นอน รวมทั้งแนวโน้มต้นทุนการผลิตหลังจากนี้ ยังจะสูงขึ้นอีกจากทั้งราคาพลังงาน โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า คาดว่าการส่งออกไทย จะหดตัวมากขึ้นในกรอบ -2% ถึง 0.0%

เท่าที่ทราบช่วงนี้ผู้ส่งออกกำลังเร่งหาทางออก ด้วยการแสวงหาตลาดส่งออกใหม่ ๆ และหวังว่า รัฐบาลจะเร่งเดินหน้าเปิดเขตการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอ กับประเทศต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งความหวังในการจัดตั้งรัฐบาลให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เชื่อว่าจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark