ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ออกหมายจับ อดีตประธานบริษัท STARK

ข่าวภาคค่ำ - DSI ขอศาลฯ ออกหมายจับอดีตประธานฯ บริษัท STARK แล้ว หลังหลบหนีออกนอกประเทศ ไม่ไปพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก

หลังจากพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ออกหมายเรียก นายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท STARK คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ อดีตกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่การเงิน ให้มารับทราบข้อหา ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในวันนี้และวันพรุ่งนี้ เมื่อถึงเวลานัดก็ไม่พบว่านายชนินทร์จะเดินทางมา มีเพียงทนายความของนายศรัทธา ที่ไปยื่นหนังสือขอเลื่อนนัด เนื่องจากติดภารกิจ

พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน DSI เปิดเผยว่า นายชนินทร์ ได้ส่งหนังสือแจ้งขอเลื่อนหมายเรียก ให้เหตุผลว่ายังไม่สะดวกเข้าพบ แต่จากการข่าวพบว่า นายชนินทร์ ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ปลายทางสิงคโปร์ DSI จึงขอศาลออกหมายจับแล้ว ส่วนสัปดาห์หน้า DSI จะออกหมายเรียกเลขานุการของนายชนินทร์ มาให้ปากคำ

ส่วนผู้ที่ถูก ก.ล.ต. กล่าวหาที่เหลือ นอกจาก นายชนินทร์ และ นายศรัทธา แล้ว ยังมีอีก 8 ราย เป็นอดีตกรรมการบริษัทฯ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทฯในเครือ และบริษัทในเครืออีก 4 แห่ง ที่เกี่ยวข้องกับการรับโอนเงินนับหมื่นล้านบาท หาก DSI รวบรวมหลักฐานครบ จะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อหา 

ในส่วนที่ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท STARK ที่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ นายชนินทร์, นายศรัทธา และ นางสาวยสบวร อำมฤต เลขานุการนายชนินทร์ โดย นายวนรัชต์ ที่มาร้องทุกข์ ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่อาจจะถูกดำเนินคดีด้วย ตามที่ ก.ล.ต. ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้

และเมื่อช่วงเช้า DSI ได้เข้าตรวจค้นบริษัท STARK, บริษัทในเครือ, บ้านพัก และสำนักงานของผู้ต้องหา 15 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อรวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อว่าน่าจะมีข้อมูลการทุจริตอยู่

ขณะที่กลุ่มผู้ถือหุ่นรายย่อย 21 คน ซึ่งเป็นตัวแทนผู้เสียหายจากการร่วมลงทุนหุ้นสามัญ บริษัท STARK เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ DSI ขอให้เร่งจับกุมและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตทั้งหมด 8 คน โดยทั้งหมดเป็นอดีตผู้บริหาร และผู้บริหารในปัจจุบัน รวมทั้งขอให้ประสาน ปปง. อายัดทรัพย์สิน เพราะมูลค่าความเสียหายในคดีนี้กว่าแสนล้านบาท

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark