คอลัมน์หมายเลข 7 : ตรวจสอบนายทุนถมทะเลทำท่าเรือเฟอร์รี เรียกเก็บค่าที่จอดรถ

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ ลงพื้นที่ไปที่จังหวัดภูเก็ต หลังได้รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบกรณีที่มีนายทุนอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองที่ดิน ถมดินในทะเล สร้างท่าเทียบเรือมานานหลายปี และเรียกเก็บค่าจอดรถจากชาวบ้านจนทำให้เดือดร้อน ติดตามจากคุณเตชะวัฒน์ สุขรักษ์

กำนันตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต บอกถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องใช้พื้นที่ท่าเรือแหลมหินจอดรถ เพื่อข้ามเรือกลับบ้านบนเกาะมะพร้าว บางคนก็จอดรถไปทำงานบนรีสอร์ตที่อยู่บนเกาะ และนักท่องเที่ยวที่จอดรถไปท่องเที่ยว แต่ถูกเอกชนที่ทำกิจการท่าเทียบเรือเฟอร์รี และลานจอดรถ อ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองที่ดิน และเรียกเก็บค่าที่จอดรถ 

จุดนี้แบ่งเป็น 2 โซน โซนแรก เป็นลานจอดรถ และท่าเทียบเรือเฟอร์รี ใครจะเข้า-ออก ต้องจ่ายเงิน โซนที่ 2 พื้นที่ด้านในของแหลมหิน ที่ท้องถิ่นเข้าไปดูแล มีเพิงจอดรถจักรยานยนต์ แต่เอกชนก็พยายามครอบครอง นำตู้เก็บเงินพร้อมเครื่องกีดขวางมาวางไว้ ท้องถิ่นจึงไปร้องไปทุกข์กล่าวโทษ แต่คดีก็ไม่คืบหน้า

อดีตที่ดินแหลมหิน มีเนื้อที่ 5 ไร่ อาณาเขตตั้งแต่สันเขาจรดทะเล เจ้าของเดิม เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน ขายให้นายทุน จากนั้นเริ่มมีการถมทะเลต่อเนื่องนาน 30 ปี จนกลายเป็นท่าเทียบเรือเฟอร์รี ไปเกาะยาวใหญ่ 

หลักฐานภาพถ่ายทางอากาศ ตั้งแต่ปี 2510-2518 สภาพยังเป็นป่าและทะเล จากนั้นปี 2538 มีท่าเทียบเรือขนาดเล็ก กระทั่งปี 2542 เริ่มก่อสร้างอาคารโรงเรือน และชัดเจนมากที่สุด ระหว่างปี 2545-2565 ที่มีอาคารโรงเรือนในทะเล และพื้นที่เพิ่มเติมจากเดิม

ชาวบ้านเกาะมะพร้าว ระบายความอัดอั้นความเดือดร้อน ที่ไม่มีพื้นที่ท่าเรือเป็นของท้องถิ่น จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐ แก้ไขปัญหาความขัดแย้งกับเอกชน และท้องถิ่นก็จะดูแลพื้นที่ได้ เพราะขณะนี้แต่ละเดือนต้องจ่ายค่าจอดรถนับพันบาท

เจ้าท่าสาขาภูเก็ต เผยว่า มีคำสั่งทางปกครองให้เอกชนรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแล้ว พร้อมแจ้งความดำเนินคดี แต่ก็มีการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งเจ้าท่าสาขาภูเก็ต พิจารณายกอุทธรณ์ทั้งหมด แล้วรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับขั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของผู้บังคับบัญชา

จากข้อมูล เจ้าของท่าเทียบเรือแหลมหิน เป็นอดีตสมาชิกสภาจังหวัดพังงา พื้นที่อำเภอเกาะยาว เสียชีวิตไปไม่นาน และขณะนี้ทายาทอยู่ระหว่างจัดการมรดกทั้งหมด