ศาล รธน.รับคำร้อง ก้าวไกล แก้ไขมาตรา 112 ล้มล้างการปกครอง

ข่าวภาคค่ำ - ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และ พรรคก้าวไกล ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาล้มล้างการปกครองภายใน 15 วัน หลังมีมติรับคำร้องในวันนี้  

ศาล รธน. รับคำร้องก้าวไกลแก้ไข ม. 112 ล้มล้างการปกครอง
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ที่ขอให้วินิจฉัยการกระทําของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ พรรคก้าวไกล ที่ได้เสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และใช้เป็นนโยบายในการหาเสียง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ และให้ยื่นคําชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสําเนา รวมทั้งแจ้งอัยการสูงสุดว่าหากอัยการสูงสุดได้รับพยานหลักฐานใดเพิ่มเติม ให้จัดส่งศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว

กกต.ยื่นศาล รธน. วินิจฉัยคุณสมบัติ พิธา ปมถือหุ้นสื่อฯ
ส่วนประเด็นการตรวจสอบคุณสมบัติของ นายพิธา นั้น กกต. มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพ สส. ของ นายพิธา ว่าต้องสิ้นสุดลงหรือไม่ จากกรณีถือครองหุ้นไอทีวี และขอให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ สส. ไว้จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ซึ่งเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งว่าได้รับคําร้องของ กกต. ในทางธุรการแล้ว และจะนําเสนอคําร้องดังกล่าว ต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาต่อไป

ก้าวไกล รวบรวมหลักฐานเอาผิด กกต. มาตรา 157
พรรคก้าวไกล แถลงว่า ได้ให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูล เพื่อเตรียมเอาผิดกับ กกต. ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 โดยไม่ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพของ นายพิธา เนื่องจากเห็นว่าการดำเนินการของ กกต. เร่งรีบเกินไปขัดต่อระเบียบของ กกต. เอง พร้อมยืนยันว่า นายพิธา ยังมีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี 100 เปอร์เซ็นต์ และไม่มีเหตุให้ต้องเลื่อนการลงมติที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้

ขณะที่ นายพิธา ไม่กังวลว่า คำร้องของ กกต. จะส่งผลต่อการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และยังเชื่อว่า แนวโน้มการลงมติจะเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่ยอมรับว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะไม่เคยถูกเรียกเข้าไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา

สำหรับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ จะไม่ได้อยู่ร่วมโหวตด้วย โดยต่างติดภารกิจทั้งในต่างจังหวัด และต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดได้ยื่นใบลาต่อประธานวุฒิสภาแล้ว ขณะที่ ท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ทั้งพรรคพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ภูมิใจไทย และ ประชาธิปัตย์ ต่างมีมติไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคการเมืองที่สนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งมีทั้งงดออกเสียง และไม่เห็นชอบ

ทักษิณ รอการเมืองนิ่ง ส่อเลื่อนกลับไทย 
หลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงได้ซักซ้อมแผน เตรียมพร้อมหาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า เป็นธรรมดาที่จะต้องมีการเตรียมการไว้ แต่ไม่ขอเปิดเผยว่า นายทักษิณ ได้ประสานกับหน่วยงานใดบ้าง เพราะจะไม่ดีต่อตัวนายทักษิณ และรัฐบาลชุดนี้

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวนายทักษิณ ยอมรับว่า ถ้านายทักษิณไม่ได้กลับมาภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ก็อาจเลยเวลาออกไปอีกไม่นาน เพราะต้องรอดูการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ รวมถึงต้องรอให้สถานการณ์การเมืองนิ่งก่อน เพื่อไม่ให้การกลับมาส่งผลต่อการเมืองไทย